จากการวิเคราะห์ของผมนะ

1. คิดว่าเรื่องออกถี่เกินไม่น่าจะเกี่ยว เพราะโปเกมอนก็ออกแบบนี้

2. ภาค 1 - 3 เล่นไปรู้สึกคล้ายกันมาก แบบคล้ายแบบมาก ๆ เพิ่มแค่มอนใหม่ ฉากใหม่ แถมยังดันมอนเก่าอีก

3. เกมไม่มี มอนเริ่ม มีแต่ วิสเปอร์ (เพื่อน) กับ จิบาเนียน แล้วยิ่งภาค 3 อารมณ์แบบ แมวเปลี่ยนสี คือภาค 1 - 3 ไม่มีมอนน่ารักเพิ่มเลย (คิดว่ามีเพิ่ม แต่ตัวเกม ดัน จิบาเนียนเยอะมาก บางทีคนอาจจะเบื่อ)

4. ตอนภาค 2 ออกถือว่ายังได้กินบุญเก่าอยู่บ้าง ขายดีแบบเททิ้งอยู่ แต่ภาค 3 นี่ ออกแนว แย่เลย ถ้าวัดจากภาค 1 กับ 2 อันนี้ไม่ชัวร์จริง ๆ ว่าเพราะอะไร แต่เดาว่าน่าจะเป็น ข้อ 2 กับ 3 ข้างบนและอีกอย่าง ภาค 3 นี้เปลี่ยนระบบต่อสู้ คิดว่าเล่นยากไปสำหรับเด็ก ต้องวางแผน คอยเลื่อนตัวละครไปมาด้วย ผมเล่นเอง ยังรู้สึกว่าน่ารำคาญเลย

5. พูดถึงภาค 4 เรียกได้ว่า จุดสิ้นสุดเลย เพราะเงียบมากคิดว่าน่าจะเป็นเพราะหลาย ๆ อย่าง อย่างแรกเลยกราฟิกในเกม คือไม่ใช่ SD แบบภาค ก่อน อย่างที่สอง หน้าตัวละครเอก พอทำเป็น 3D โมเดล ทำไมออกมาหน้าเหมือนลิง อย่างที่ 3 ตัวละครโตขึ้น ไม่เหมือนกับโปเกมอนที่ต่อให้เราได้เล่นตัวละครโต แต่ก็มันเป็นการเริ่มเล่น แต่ของโยไค 4 คือ ตัวละครโตขึ้นจริง ๆ เด็กอาจจะไม่อิน

ประมาณนี้ ปีที่แล้วไปญี่ปุ่นนี่ บูธโยไควอทช์แทบไม่มีที่ยืน อย่าเรียกว่าบูธ เรียกว่าตู้วางของเล่นก็พอ

ต้นตอกระแสบูมมันเริ่มมาจากเมะก่อนด้วยท่าเต้นจากเพลง ED + ชื่อโยไคมันเป็นการเล่นคำที่เด็กชอบ แล้วถึงลามไปทำให้เกมขายดีด้วย ปัญหาคือพอกระแสมันเริ่มดร็อปตามกาลเวลา ดันตัดจบไปขึ้นเป็นภาค Shadow Side เหมือนขุดหลุมเองกลบฝังเองเสร็จสรรพ เพราะจุดขายเรื่องความน่ารักหายเกลี้ยง
คราวนี้กระแสเลยดับถาวร ถึงขนาดไปขุดเคย์ตะกลับมาก็ไม่ทันแล้ว

ส่วนในแง่ของเรื่องเกมผมว่าการตลาดมันหนักแบบฮาร์ดคอร์โคตรๆตั้งแต่ขายเหรียญ ขายอุปกรณ์เสริมเพื่อเอาไปปลดไอเทมหรือโยไคในเกม บางตัวแจกจากอีเว้นท์ หรือซื้อของตามงาน เกมที่ขายแยก 2 ภาคก็กึ่งบังคับซื้อ 2 ภาคกลายๆเพราะตัวดีๆส่วนมากได้จากการลิงค์ระหว่างภาค ถ้าไม่มีเพื่อนที่รู้จักเล่นอยู่นี่ลิงค์กันโคตรยากเพราะผ่านเน็ตก็ไม่ได้
แถมยังมีระบบสุ่มกาชาโยไค หรือจับจากแบทเทิ่ลก็ต้องสุ่มว่าจะเป็นพวกรึเปล่า บางตัวโอกาสเจอยากแล้วก็ยังต้องสุ่มอีกว่าจะจับได้รึเปล่า ทั้งหมดที่กล่าวมาคือการจะเก็บให้คอมพลีทผมว่าโคตรยากแบบเกือบเป็นไปไม่ได้เพราะต้องใช้เงิน+เวลาล้วนๆ ถ้าเป็นเด็กก็คงไม่แปลกที่จะท้อ ยังไม่นับรวมพ่อแม่ไม่ซื้อของให้อีก

การตลาดที่ทำๆมาผมว่ามันตรงข้ามกับโปเกม่อนสิ้นเชิง โปเกม่อนพยายามเลี้ยงกระแสตัวเองเรื่อยๆ ขายจุดเด่นตัวเองเน้นความคงเส้นคงวา เพิ่มตัวใหม่ๆสร้างสีสัน ส่วนโยกไข่นี่พอติดลมบนกระแสมารีบขายแบบประหนึ่งตายอดตายอยาก ตัวใหม่ๆก็มีน้อยเพราะเน้นย้อมสี พอกระแสตกรีบเข็นภาคใหม่สุดท้ายเสียอัตลักษณ์ที่เคยทำมาก็ดับดิ้นด้วยประการฉะนี้

ปล เกมผมเล่นแค่ภาค 2-3 นะครับ เพราะเป็นช่วงกระแสแรงสุด พอ 4 มาก็ขี้เกียจละครับ