ดูเหมือนในการต่อสู้ข้อกล่าวหา Microsoft ต่อคดีที่ถูกกล่าวหาว่าการเข้าซื้อ Activision จะทำให้เกิดการผูกขาดนั้นดูดุเดือดขึ้น

โดยในคำให้การ Microsoft ต่อคณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่า Sony ก็ทำข้อตกลงเพื่อกีดกันเกมไม่ให้ลง Xbox เช่นกัน อย่างเกมดัง ๆ เช่น Final Fantasy VII Remake, Final Fantasy XVI, Bloodborne และ Silent Hill 2 Remake แม้บางเกมจะไม่ได้ห้ามลง PC ในภายหลัง แต่ดูเหมือนเกมดังข้างต้นจะมีข้อตกลงระหว่าง Sony กับค่าย Third party ทำให้ไม่ได้ลง Xbox ด้วย และจะไม่ลงตลอดไป แม้ค่าย Third party จะไม่เคยออกมายืนยันเลยก็ตาม

ซึ่งคำให้การเช่นนี้ก็น่าจะเป็นไปเพื่อหักล้างข้อที่ Sony กล่าวหาว่าการซื้อ Activision ของ Microsoft จะกีดกันไม่ให้เกมลงเครื่องของคู่แข่ง เพราะ Sony ก็ทำการกีดกันในลักษณะเดียวกันนั้นเอง

[Link]

เหมือนใช้ผู้เล่นเป็นตัวประกันเลยแฮะ หรือมั่นใจว่าปีหน้าจะขายเครื่อง ps5 ได้ง่ายขึ้น เพราะเกมที่เอามาเป็นตัวประกัน มันลงเฉพาะ ps5 เท่านั้น ถ้าคนยังขาดเครื่องเกมอยู่ เกมก็ขายไม่ออก

ถ้ามันลง XSX ผมซื้อเครื่องวันนี้เลยอะ

เหมือนกันยังไง

SONY ตกลงกับ Third Party แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของ แปลว่าต้องมีการจ่ายเงินทดแทนไปให้พอสมควร แล้วไปบังคับไม่ได้ Microsoft จะจ่ายตังแข่งก็ทำได้

แต่ Microsoft ซื้อ Third Party จะเป็นเจ้าของ Third Party สั่งการได้ อาจจะมีจ่ายตังระหว่างกันกระเป๋าซ้ายขวา แต่บังคับได้แน่นอน และ SONY จะจ่ายตังแข่งยังไง

สรุปเผื่อคนขี้เกียจอ่านที่ออกมาสองสามวันนี้

เอกสารเต็ม msft
[Link]
เอกสาร cma ที่ใช้สรุปความคิดเห็นผู้เล่นต่อดีลนี้
ที่ไม่อยู่ในเอกสารคือ มีความคิดเห็นขยะ 20% ส่วนที่ผ่าน 3/4 สนับสนุนดีลนี้


เรื่องที่ msft complain ftc
มีคนสรุปภาษาเข้าใจง่าย สำหรับใครที่ไม่อยากอ่านตัวเต็ม
**แต่เนื้อหาจะไม่ละเอียดเท่าอ่านเอง และอาจตั้งคำถามได้


complain จาก cco ฝั่ง abk


สัดส่วนตลาดในปี 2021
จะเห็นว่าปีที่แล้ว ไมขายเครื่องได้น้อยกว่าโซนี่ถึง 2 เท่า
ส่วนนินครองตลาดหลัก
ส่วนmobile ก็อย่างที่เห็นในภาพอ่านะ


เรื่อง ff7 msft ไม่ได้ complain เรื่องex
แต่บอกว่าการทำ ex เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว เพราะงั้นถ้า msft จะทำ ex ให้เกมส์ในค่ายตัวเองจึงเป็นเรื่องปรกติ
ไม่ใช่การผูกขาดตลาด




**************
fact
ดีลนี้ ไมไม่เดินเข้ามาดุ่มๆ ทุ่มตลาดซื้อ abk
แต่ abk เป็นคนเข้ามาเสนอขายให้ msft เอง
ซึ่งก็ยื่นพร้อมกับบริษัทอื่นในตลาด

ปวดหัว ไม่รู้จะด่าฝั่งไหนดี ขออยู่ข้างฝั่งคนชนะละกันครับ

เท่าที่อ่าน...สาระสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงที่ว่า...A|B เป็นฝ่ายมายื่นเสนอขายให้กับ ms หรอกรึ... ถ้าเป็นความจริงนี่มันก็นะ...

ในฐานะเกมเมอร์ ผมเเคร์เเค่ว่า MS ซื้อไปเเล้ว จะพัฒนาให้ค่ายผลิตเกมคุณภาพออกมาเยอะๆเเค่นั้น ซึ่งตรงนี้ผมว่ามีเเนวทางที่ดีขึ้นนะ หลายๆเเฟรนไชส์ดูมีอนาคตกว่าเเต่ก่อนเยอะ

ส่วนในเรื่องธุรกิจ ผมว่ามันอยู่ที่มุมมอง เถียงกันไปก็เท่านั้นนะเเหละ ถูกผิดก็รอคำตัดสิน ส่วนตัวผมว่ายังไงดีลก็ผ่าน

เเต่ถ้ามองเรื่องการผูกขาด MS นี่ผลิตเกมออกมายังไงๆก็ลง PC อยู่เเล้วรึป่าวนะ + มีโอกาสลง PS5 ด้วย คิดว่าอย่าง COD ภาคต่อๆไป หรือเกม EX จาก Bethesda ก็คงมีลง PS5 เเหละ เเต่เสียงเงินซื้อราคาเต็ม ถ้าเล่น PC/Xbox ก็ลง Gamepass Day One

ไม่น่าจะเอามาอ้างนะ อันนี้มันข้อตกลงทางการค้ากับบุคคลที่3 ไม่ใช่การเทคบริษัทแบบ ms

ผมมองว่าเป็นเรื่องธุรกิจไม่มีใครผิดและถูกอยู่ที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเอง มีตังค์มีเงินก็ซื้อเล่นได้หมดทุกเครื่องทุกแพลตฟอร์ม ถ้ามีอคติสำหรับคอนเทนต์หรือเกมส์ที่แบ่งตลาดหากำไรกันก็ไม่ต้องเล่น ไปเสพหรือสนุกกับสื่อที่สามารถเข้าถึงได้พอไม่ต้องไปเคารพพวกหวังแค่เงินมาก ซักวันมือถือกับคลาวด์เกมมิ่งก็ต้องมา พวก 2-3 เจ้าที่แย่งเป็นเบอร์หนึ่งตอนนี้จะเสียดายทีหลังว่าน่าจะขยายฐานลูกค้า "ไม่ใช่แค่ตัดช่องน้อยพอตัว จับเงินแค่ที่เห็นอยู่ตอนนี้"ครับ

เอาจริงๆคือ มันแถไม่ตรงประเด็นอ่ะ

ไม่ลง xbox ไม่เป็นไร ขอให้ลง pc เป็นพอ 555

นี่เกี่ยวกะที่ nioh ไม่เคยโผล่มา xbox ไหมหว่า

กรณี Activision Blizzard นี่ผมมองว่า MS ไม่คิดจะซื้อมาทำ EX เป็นหลักแต่แรกแล้วต่างจากเคส Bethesda อย่าง Starfield นี่ทำ exclusive ได้เลยเพราะเป็น ip ใหม่ impact ต่อตลาดมันยังไม่ได้มากพอ (โซนี่ก็ไม่ได้ร้อนอกร้อนใจอะไรตอน MS ซื้อ Bethesda) แต่ COD เป็น franchise ทำเงินมหาศาลจากการที่มันขายทุกปี ทุกเครื่อง การเอามาทำเป็น ex มีแต่จะเสียกับเสีย สุดท้ายดีที่สุดคือปล่อยให้มันมีสถานะเหมือนซีรีย์ Minecraft ที่เน้นทำกำไรจากทุกแพลตฟอร์ม แต่ลูกค้าใน ecosystem ของ Xbox ได้ประโยชน์มากสุดเพราะสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Gamepass

สภาพแบบนี้คนดูชอบสาวไส้กันออกมา
ถ้าดีลล่มตังเหลือก็ให้พี่ไมโครไปไล่exลงเกมพาสเยอะๆแทนละกัน
ไปรุกตลาดยุ่นขอปรุงยาลงเกมพาสเดย์วัน