Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Mini-Review: Me and Earl and the Dying Girl (2015) l ผม กับ เกลอ และเธอผู้เปลี่ยนหัวใจ
??? I? at 2016-01-06 19:26:30 , Reads (33666), Comments (1) , Source :

Mini-Review: Me and Earl and the Dying Girl (2015) l ผม กับ เกลอ และเธอผู้เปลี่ยนหัวใจ



ภาพยนตร์แนวดราม่า คอมเมดี้ สร้างจากหนังสือนิยาย"Me and Earl and the Dying Girl"ของ Jesse Andrews [Jesse Andrews ยังรับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์อีกด้วย เรียกได้ว่าต้นตำรับมาเอง] กำกับภาพยนตร์โดย Alfonso Gomez-Rejon [ผลงานกำกับของแกส่วนใหญ่เป็น ทีวีซีรี่ส์เช่น Glee, Red Band Society, American Horror Story และภาพยนตร์แนวสยองขวัญรีเมคเรื่อง The Town That Dreaded Sundown (2014)]


เกร็ก และ เอิร์ล และ เรเชล


นอกจากน้องเหมียว"สตีเว่นส์" ในเรื่องคุณจะได้พบสารพัดสัตว์ทั้ง กวางมูส, ชิปมั้ง, แพนด้าฯลฯ แต่สำหรับ"กระรอก"แล้ว อาจเป็นตัวที่คุณรักที่สุดในเรื่อง

ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตในปีสุดท้ายมัธยมปลายของ"เกร็ก"เด็ก ม.ปลายที่มีนิสัยค่อนข้างอินดี้ สำหรับโรงเรียนเชนลีย์ในมุมมองของเกร็กแล้ว เปรียบเสมือนโลกอีกโลกหนึ่ง ที่มีหลากหลายภาษาและวัฒนธรรม มีกลุ่มหลายๆกลุ่มแบ่งแยกตามนิสัย ความชอบ แนวคิดและอีกหลายๆอย่าง โดยที่เขาเองต้องพยายามทำตัวให้กลมกลืน(พูดง่ายๆก็คือทำตัวให้"เนียน") กับทุกๆกลุ่ม โดย"เกร็ก"มีงานอดิเรกที่ชอบทำมาตั้งแต่ยังเด็ก นั้นคือการทำหนังล้อหนังคลาสสิก โดยที่มีเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก"เอิร์ล" ร่วมเป็นทีมงานคู่หูช่วยกันสร้างผลงานด้วยกันตลอดมา(ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลโดยมีนิสัยไม่เหมือนเด็กทั่วๆไปคือ ทั้งคู่ชอบดูหนังคลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ) จนมาถึงวันที่ชีวิตอันแสนสงบสุขสำหรับตัว เกร็ก ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อแม่ของเกร็ก ขอร้องเชิงบังคับให้เกร็กไปช่วยเป็นเพื่อนและคอยให้กำลังใจกับสาวน้อย"เรเชล" ซึ่งตอนนี้เธอกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว(ลูคีเมีย) สำหรับเกร็กแล้ว เรเชลนั้นถือเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนที่ไม่เคยพูดคุยหรือทักทายด้วยเลยซักครั้ง ดังนั้นทั้งสองคนจะเป็นเพื่อนกันได้ไหมและชีวิตอินดี้ของเกร็กจะเป็นอย่างไร ต่อจากนี้ไปเรื่องราวจะลงเอยเช่นไรพวกเราๆก็ต้องไปหามารับชมกันได้ตามอัธยาศัยเลยครับผม


สาวน้อย"เรเชล" รับบทโดย โอลิเวีย คุก แล้วคุณจะหลงรักเธอ


เอิร์ล และ เกร็ก สองหนุ่มคู่หู ดูโอ้ ผู้ที่รักในการดูหนังคลาสสิก แล้วทั้งสองยังมีงานอดิเรกอย่างการทำหนังล้อเลียนหนังคลาสสิกอีกด้วย


หนังคลาสสิกล้อเลียนทั้งหมด 42 เรื่อง ที่เกร็กและเอิร์ล(GJF)ได้ทำไว้ เกร็กได้นิยามหนังล้อของเขาไว้ว่า"มันห่วยสะจนคนที่ดูมันแล้วอาจตายได้" บรรดาหนังคลาสสิกล้อเลียนของสองหนุ่มที่ทำไว้ อาทิเช่น Anatomy of a Burger จากเรื่อง Anatomy of a Murder, Ate½ (of my lunch) จากเรื่อง 8½, The 400 Bros จากเรื่อง The 400 Blows, Senior Citizen Cane จากเรื่อง Citizen Kane หรือแม้กระทั่ง MonoRash จากเรื่อง Rashomon ของ อะกิระ คุโระซะวะ สามารถบ่งบอกได้ว่าสองคนนี้มีรสนิยมในการดูหนังที่ดีมิใช่น้อย


A Sockwork Orange หนึ่งในหนังคลาสสิกล้อเลียน จากเรื่อง A Clockwork Orange (1971) ของผู้กำกับ สแตนลีย์ คูบริก(Stanley Kubrick) ภายในเรื่องบรรดาหนังคลาสสิกล้อเลียนจะมีให้ดูเรื่องละไม่กี่นาทีเอง(ผมชอบมากเลยนะสำหรับหนังของ GJF )


ช่วงพักเที่ยง เกร็กและเอิร์ล จะมาหมกตัวอยู่ที่ห้องครู "แม็คคาร์ธี" เพราะเกร็กเปรียบไว้ว่าโรงอาหารก็เหมือนสนามรบ


ครู แม็คคาร์ธี สุดแนว ครูคนเดียวที่เกร็กให้ความนับถือ รับบทโดย จอน เบิร์นธัล (เรื่องนี้เฮีย จอน เท่มากถึงจะคลั่งไคล้"เฝอ"ไปหน่อยก็เถอะ)


บรรยากาศบวกภาพสวยๆภายในเรื่อง

Me and Earl and the Dying Girl (2015) l ผม กับ เกลอ และเธอผู้เปลี่ยนหัวใจ สำหรับชื่อเรื่องของหนังในเวอร์ชั่นภาษาไทยมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยแต่ก็ดูไพเราะกว่าเวอร์ชั่นแรก(แต่ผมชอบชื่อแบบเวอร์ชั่นแรกมากกว่า555) สำหรับตัวหนังแล้วเราจะได้รับชมการพัฒนาการใช้ชีวิตในช่วงแรกเริ่มสู่การเป็นวัยรุ่นของ"เกร็ก" ว่าเจ้าหนุ่มน้อยของเราจะต้องผ่านประสบการณ์ในชีวิตต่างๆนาๆทั้ง สุข เศร้า เหงา ฮา ปะปนกันต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่างในการที่เกร็กจะเติบโตเป็นวัยรุ่นที่มี ความคิด มุมมอง และนิสัยที่ดี ไม่ใช่เพราะตัวเขาเพียงคนเดียวที่จะกำหนดทุกอย่างในชีวิตได้ ด้าน"โทมัส แมนน์"ภายในเรื่องรับบทเป็นเกร็ก สามารถถ่ายทอดอารมณ์ในการแสดงได้ดี ดูลื่นไหล(บ้างที่ดูเหมือนไอ้เจ้าเกร็กของเรานี่จะพูดมากเกินไปหน่อย) และที่สำคัญที่สุดสำหรับผม คงไม่พ้นสาวน้อย"เรเชล"หัวใจสำคัญของเรื่อง ที่รับบทโดย"โอลิเวีย คุก"ที่สามารถแบกรับบทสำคัญ และเป็นที่น่าจดจำมากที่สุดคนหนึ่งของเรื่อง "โอลิเวีย"สามารถแสดงความเข้มแข็งแต่แฝงความเศร้าผ่านตัวละครอย่าง"เรเชล"ได้เป็นอย่างดี สามารถทำให้เราชื่นชอบ หลงรัก และเอาใจช่วยเธอได้อย่างง่ายดาย ส่วนตัวละครอื่นๆก็กระจายบทได้ดี แต่บทของ"เอิร์ล"มีน้อยไปนิดนึง ตัวหนังดูได้เพลินๆตามประสาหนังวัยรุ่น มุขที่ใช้ในหนังส่วนใหญ่ผมขำนะ(ยิ่งถ้าเคยดูหนังเก่าๆมาบ้างนี่โคตรฮาเลย สำหรับบางฉาก) หนังมีแอบเนื่อยๆช่วงกลางบ้าง แต่ก็หักล้างกับช่วงท้ายของหนังที่อาจทำให้คุณประทับใจจนลืมข้อเสียเล็กๆน้อยๆออกไปจนหมด มีการสอดแทรก สาระ และแง่คิดดีๆไว้ตลอด ดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่าผู้กำกับจงใจหรือยัดเยียดแนวคิดหรือคำพูดเท่ๆลงในหนัง งานด้านภาพสวยดีดูแล้วสบายตา มีมุมกล้องแปลกๆเก๋ๆอยู่หลายฉาก เพลงประกอบในหนังส่วนใหญ่นำมาจากเพลงประกอบหนังคลาสสิกหลายๆเรื่อง ฟังแล้วคุ้นหูเหมาะกับบรรยากาศและเข้ากันดีกับตัวหนัง(ช่วงท้ายๆของหนังใช้เพลง"The Big Ship"ของ Brian Eno ได้ลงตัวและประทับใจมาก) โดยรวมแล้วผมไม่อยากเล่าอะไรมากนัก อยากให้ได้ลองรับชมเองแล้วจะรู้ว่า"หนังเรื่องนี้ได้เข้ามาอยู่ในใจของคุณแล้ว เหมือนอย่างที่หนุ่มหัวแข็งอย่างเกร็กได้เปิดใจยอมรับเพื่อนที่แสนน่ารักอย่าง เรเชล เข้ามาอยู่ในใจของเขา" ให้ 8.5 ครับผม คุณค่าและความหมายชีวิตของใครบ้างคนอาจรวมไว้ในกระดาษแผ่นเดียวก็ได้ ใครจะรู้?


สาวน้อยจอมขโมยซีนของผม"เมดิสัน"สาวสุดฮอตที่ทำลายชีวิตเรา รับบทโดย แคทเธอรีน ฮิวจ์ส


จากซ้ายไปขวา Molly Shannon, Katherine Hughes, RJ Cyler, Olivia Cooke, Thomas Mann, Alfonso Gomez-Rejon(ผู้กำกับ), Jesse Andrews(ผู้แต่งหนังสือและเขียนบท), Connie Britton และ Nick Offerman

แถม: เป็น MV พิเศษ วิดีโอประกอบเพลงสปอยล์ตัวหนังนะครับ แนะนำให้ดูหนังแล้วค่อยดูครับผม


เพลง Changing Heart ของวง Audiomachine



แสดงความคิดเห็น


4 กุมภาพันธ์ วันมะเร็งโลก World Cancer Day - ดูเรื่องนี้แล้วอยากเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ป่วยทุกคนเลยครับ สู้ๆครับ



Rachel (Olivia Cooke)