เรียนรู้และทำความเข้าใจระบบภายในเกม
Legasista นั้นเป็นเกมแนว Dungeon Crawler ซึ่งในระหว่างที่เรากำลังเล่นเนื้อเรื่องหลักตัวเกมก็จะคอยสอนและอธิบายระบบภายในเกมอยู่เป็นระยะ ขั้นตอนแรกผมคงแนะนำอะไรไม่ได้มากนอกจากเล่นเนื้อเรื่องหลักให้จบก่อนเพื่อทำความคุ้นเคยกับตัวเกมและเตรียมรับศึกหนักในภายหลัง

เตรียมความพร้อมสำหรับการ Grind และ Character Creation
จุดเด่นของ Legasista อย่างนึงคือเราสามารถสร้างตัวละครเองได้สูงสุด 10 ตัว ซึ่งเราสามารถปรับแต่งรูปร่างของตัวละครได้ตามใจชอบผ่านการ Import ภาพที่มีอยู่ในเครื่องหรือจะนั่งปรับแต่งเองก็ได้ (สามารถปรับแต่งให้รูปร่างเหมือนตัวละครจากการ์ตูนหรือเกมอื่นได้ถ้าเรามีความสามารถพอ) หลังจากจบเนื้อเรื่องหลักแล้วสิ่งที่เหลืออยู่ก็คงไม่พ้นการไล่เก็บถ้วยที่เหลือ ผมแนะนำว่าให้เราสร้างตัวละครเองเอาไว้อย่างน้อย 1 ตัว หรือถ้าใครขี้เกียจก็จะขอให้ใช้ Melize เป็นตัวละครหลัก (เหตุผลที่เลือก Melize ผมจะบอกในขั้นตอนต่อไป)

เริ่มสร้างตัวละครหลักและทำการเก็บเลเวล
ในระหว่างการสร้างตัวละครนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือขั้นตอนการเลือก Character Trait ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่าตัวละครของเราจะมีความพิเศษอย่างไร ผมขอแนะนำให้เลือก No Food/Poison/Medicine+HP เนื่องจากความสามารถนี้จะทำให้ตัวละครของเราป้องกันจากการติดพิษอีกทั้งยังสามารถรีเจน HP ได้อีกด้วยโดยแลกกับการที่ไม่สามารถกดใช้ของประเภทอาหารได้ (เหตุผลที่ผมแนะนำให้เลือกใช้ Melize ในกรณีที่ขี้เกียจสร้างตัวละครเองก็เพราะเหตุนี้) หลังจากเสร็จสิ้นแล้วก็ให้นำตัวละครหลักของเราไปเก็บเลเวลได้เลยซึ่งผมขอแนะนำให้เปลี่ยนอาชีพตอนเลเวล 20 จนครบทุกอาชีพเป็นอย่างน้อยเพื่อปลด Job Properties ของทุกสายอาชีพ

Job Properties ที่ควรอัพ
Warrior
- Life's Levee เพิ่มค่า HP ให้กับช่อง HP หลัก
- Shield Master เพิ่มค่า DEF ให้กับโล่ที่เราสวมใส่
Explorer
- Quick Traveler เพิ่มค่า SPD ให้กับตัวละคร
- Instinctive เพิ่มค่า ATK และ DEF เมื่อตัวละครของเราเหลือช่อง HP แค่ 1 ช่อง
Pyro
- Power Enriched เพิ่มค่า MP ให้กับตัวละคร
Thief
- Treasure High เพิ่มค่า ATK และ DEF ตามจำนวนสมบัติที่ได้จากหีบภายในชั้นนั้น
- Bomb Dodger ทำให้กับดักระเบิดไม่ทำงาน
- Careful Use ลดความเสียหายที่เครื่องสวมใส่ระดับ keen และ rare ได้รับ
War Mage
- Earth Blessing มีโอกาสที่กับดักเติมเลือดจะเกิดภายในชั้นนั้น
- Chicken Power เพิ่มค่า ATK และ DEF ตามจำนวนมอนสเตอร์ประเภท Pickle ในชั้นนั้น

Widen กับ Triple คืออะไร
Widen กับ Triple นั้นคือเครื่องสวมใส่ชนิดนึงที่เวลาเราสวมใส่แล้วจะทำการเพิ่มค่าสเตตัสและค่า Mana ที่ใช้ของเครื่องสวมใส่อื่นที่อยู่ด้านซ้ายของตัวมันเอง โดย Widen นั้นจะเพิ่มเป็น 1x (2 เท่า) และ Triple นั้นจะเพิ่มเป็น 2x (3 เท่า) ซึ่งเราจะได้ Widen ชิ้นแรกโดยการคุยกับ Sproutji ที่อยู่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือภายใน Railyard หลังจากจบเนื้อเรื่องหลัก หากต้องการอีกเราก็สามารถหาได้จากการล่ามอนสเตอร์ประเภท Pickle ภายในดันเจี้ยน (นกที่ดรอปของระดับ fine ทุกครั้ง) โดยที่โอกาสดรอปจะค่อนข้างต่ำและอย่างน้อยถ้าคิดจะเล่นจนแพลทผมขอแนะนำให้ล่าจนได้ Triple มาอย่างน้อย 1 ชิ้นเป็นอย่างต่ำ

ทำความเข้าใจ Main-Titles และ Sub-Titles
ระบบ Titles เป็นหัวใจหลักในการพัฒนาตัวละครของเรา โดยหลักการของ Titles นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 แบบดังนี้
Main-Titles
Main-Titles นั้นคือหัวข้อหลักของ Titles ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่าเครื่องสวมใส่ชิ้นนี้มีความพิเศษอย่างไร โดยที่เราจะไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงในส่วนของ Main-Titles ได้ อยากได้แบบดีๆก็ต้องล่าเอาจนกว่าจะได้เอง
Sub-Titles
Sub-Titles นั้นคือความสามารถแยกย่อยลงมาจาก Main-Titles โดยส่วนมากจะเป็นการเพิ่มค่าสเตตัสให้กับเครื่องสวมใส่โดยตรง ซึ่งเราสามารถเปลี่ยน Sub-Titles ได้อย่างอิสระตามความต้องการของเราจากการทิ้งเครื่องสวมใส่ที่ไม่ต้องการเพื่อทำการเก็บ Sub-Titles ของเครื่องสวมใส่ชิ้นนั้นเอาไว้ โดยการที่เราจะเปลี่ยน Sub-Titles นั้นให้เราดูที่ค่า Transplant Power ด้วย ถ้า Sub-Titles ที่เราต้องการจะเปลี่ยนมีค่า Transplant Power น้อยกว่าตัวที่เราต้องการจะใส่ทับ เราก็ต้องเสียจำนวน Sub-Titles ที่ต้องการจะเปลี่ยนมากกว่าเดิมด้วย
การคำนวณค่าที่ได้ของ Titles
ค่าที่ได้ของ Titles นั้นจะคำนวณเอาจากผลของ Main-Titles คูณด้วยจำนวน Sub-Titles ยกตัวอย่างเช่น ถ้า Main-Titles ของเราคือ Damage to Bones +5% และมี Sub-Titles อยู่ 4 ช่อง ผลลัพธ์ที่ได้จาก Main-Titles ก็คือ 5% คูณ 4 เท่ากับ 20% จึงแสดงให้เห็นว่ายิ่ง Main-Titles มีจำนวน Sub-Titles มากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งมากเท่านั้น

Titles ที่แนะนำ
Main-Titles
- Amplify 100 200 300% เพิ่มผลลัพธ์ของ Sub-Titles
- Rare Title Ratio +1 +5 +10 +50 เพิ่มโอกาสที่เครื่องสวมใส่ที่ดรอปจะมี Titles ระดับ rare
Sub-Titles
- DEF Turbo 30 เพิ่มค่า DEF +30 โดยแลกกับค่า Mana 50 หน่วย
- Obstinate Durability เพิ่มค่า Durability +60 โดยแลกกับค่า Mana 10 หน่วย
- Super Mana Evolution ลดค่า Mana ลง 20 หน่วย
- ATK Turbo 30 เพิ่มค่า ATK +30 โดยแลกกับค่า Mana 50 หน่วย
- Universal Principle เพิ่มค่าสเตตัสหลักของเครื่องสวมใส่ +60 โดยแลกกับค่า Mana 30 หน่วย
- Infinite Circuit เพิ่มค่าสเตตัสหลักของเครื่องสวมใส่ +50 และลดค่า Mana ลง 30 หน่วย

สถานที่ในการล่า Titles และเครื่องสวมใส่ +99
สิ่งสำคัญก่อนที่จะล่า Titles คือเราจะต้องมีสกิลประเภท THF ที่ใช้ในการเปิดประตูแบบ Bronze และสกิลโจมตีเป็นธาตุต่างๆ เมื่อเรามีครบแล้วก็ให้ไปที่ Silvan Cave 3F ตรงบริเวณก่อนจบด่านจะมีประตู Bronze อยู่ก็ให้เปิดเข้าไปซะ ภายในเราจะเจอ Hard Pole หันหลังให้เรา 5 ตัวเรียงกันซึ่งจะเกิดใหม่ทุกราวๆ 10 วินาที ก็ให้เราใช้สกิลโจมตีแบบธาตุฆ่ามันไปเรื่อยๆเพื่อเอาเครื่องสวมใส่ที่มันดรอป ซึ่งโอกาสในการดรอปของนั้นจะขึ้นอยู่กับค่า LCK ของตัวละครที่เราบังคับในตอนนั้นและถ้าจะให้ดีก็ควรจะใส่เครื่องสวมใส่ที่มี Main-Titles คือ Rare Title Ratio มาด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ Titles ระดับ rare ยิ่งใส่มาเยอะก็ยิ่งดี (สามารถใช้ Widen หรือ Triple เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้) ส่วนเครื่องสวมใส่ +99 เองก็สามารถหาได้จากที่นี่เหมือนกัน แต่เนื่องจากของที่ได้จะเป็นของระดับต่ำจึงอาจจะไม่ดีเท่าที่ควรนัก ถ้าอยากได้ของดีๆก็ต้องไปล่าเอาในดันเจี้ยนแล้วเข้า Fortify Gate เพื่ออัพเกรดของจะดีกว่า

ตะลุยดันเจี้ยนเพื่อเก็บถ้วยที่เหลือ
หลังจากที่เรา Grind จนพอใจแล้วก็ได้เวลาทดสอบกับดันเจี้ยนสุดโหดกันได้เลย โดยดันเจี้ยนในเกมนี้จะแบ่งระดับออกเป็น 4 แบบดังนี้
Baby-geon
เป็นดันเจี้ยนที่ง่ายที่สุดเพราะเลเวลของมอนสเตอร์จะตันที่ 100 เท่านั้น เหมาะสำหรับการล่าเครื่องสวมใส่ในช่วงแรก + เก็บเลเวล มีความยาวทั้งสิ้น 30 ชั้น
Ran-geon
เป็นดันเจี้ยนระดับกลางที่ยากกว่า Baby-geon ขึ้นมาระดับนึงเนื่องจากเลเวลของมอนสเตอร์จะไม่ได้ถูกจำกัดแล้ว มีความยาวทั้งสิ้น 200 ชั้น แต่การที่จะขึ้นไปต่อชั้น 101 ได้นั้น เราจะต้องมี Black Key ที่สุ่มดรอปจากมอนสเตอร์ตามทางเพื่อใช้สำหรับเปิดประตูที่ขวางทางขึ้นด้วย
Hard-geon
เป็นดันเจี้ยนระดับสูงที่ยากกว่า Ran-geon ขึ้นมาอีกระดับนึงเนื่องจากเลเวลเริ่มต้นของมอนสเตอร์ที่มากขึ้นและกับดักตามทางที่มากขึ้นอีกเช่นกัน รายละเอียดที่เหลือก็เหมือนกับ Ran-geon ทุกประการ
Demon-geon
เป็นดันเจี้ยนระดับสูงสุดที่ยากกว่า Hard-geon อย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากเลเวลเริ่มต้นของมอนสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตาและกับดักตามทางที่เพิ่มมากขึ้นในขณะที่กับดักเติมเลือดกลับน้อยลง รายละเอียดที่เหลือก็เหมือนกับ Ran-geon ทุกประการ

คำแนะนำสำหรับตัวละครที่ใช้ลุยในดันเจี้ยน
ส่วนตัวผมเลือกให้ตัวละครหลักเปลี่ยนอาชีพเป็น Thief และเลือก Energy Frame แบบ Prudent เนื่องจาก Energy Frame ชนิดนี้จะมีช่อง HP ถึง 7 ช่อง โดยช่อง HP หลักจะอยู่ซ้ายสุดส่วนอีก 6 ช่องที่เหลือจะอยู่ขวาสุด ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องสวมใส่ได้รับความเสียหายได้ในระดับนึง อีกทั้งช่องสวมใส่โล่ยังมีความสามารถคือจะทำหน้าที่รับความเสียหายก่อนตลอด เพราะฉะนั้นถ้าหากเรามีโล่ดีๆสวมใส่อยู่ก็แทบไม่ต้องกังวลเลยว่าส่วนอื่นจะได้รับความเสียหาย สำหรับอาวุธที่แนะนำในเกมนี้คือธนูเนื่องจากสามารถยิงได้ระยะไกลจึงช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นระหว่างสู้กับมอนสเตอร์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือสามารถใส่สกิลประเภท THF ได้ ซึ่งผมขอแนะนำให้ใส่สกิล Light Step ลงไปเพราะความสามารถของมันคือในระหว่างที่ใช้สกิล กับดักตามทางทุกชนิดจะไม่ทำงานเวลาเราเหยียบซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว

ภาพตัวอย่างตัวละครหลัก + เครื่องสวมใส่ของผม

















Glitch ลอดผ่านประตูโดยไม่ต้องใช้กุญแจ
เกมนี้เราสามารถลอดผ่านประตูโดยไม่ต้องใช้กุญแจได้ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าตัวละครของเราจะต้องใช้ธนูเท่านั้น วิธีทำก็คือให้เรายิงธนูใส่ประตูแล้วในขณะที่ลูกธนูกำลังพุ่งไปที่ประตูให้เรารีบวิ่งเข้าไปอยู่ระหว่างลูกธนูกับประตูแล้วเดินผ่านเข้าประตูมาในเวลาเดียวกับที่ลูกธนูถึงประตูแล้วด้วย สามารถดูตัวอย่างได้ในวีดีโอด้านล่างตั้งแต่นาทีที่ 5:02 เป็นต้นไป



ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความอดทน ความพยายาม และดวงของท่านแล้ว ขอให้โชคดีกับการเก็บแพลทเกมนี้ครับ