คนซื้อมือ 1 จะมากขึ้นถ้าราคาลดลง
เกม 1900 ปล่อยมือ 2 1700 ก็มีคนซื้อแล้ว
หาก บ.เกม ตั้งราคาเกมถูกลงเขาก็จะได้คนที่มีความต้องการเกม แต่กำลังซื้อจำกัดที่ 1,700 ไปด้วย
ส่วนจะมีกี่คน คุ้มค่ากับส่วนต่าง 200 ที่ลดลงจากการลดราคาหรือเปล่า ต้องไปว่ากันในบัญชี

บ.เกม เขาคิดกลยุทธ์ทางการตลาดเหล่านี้ไว้อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องเบสิคที่ต้องคิดก่อนการขาย
สินค้าชิ้นหนึ่งเกมเมอร์มากมายมีความต้องการ หากแต่เกมเมอร์แต่ละคนมีกำลังซื้อไม่เท่ากัน

หากเกมเทพ มือ 1 ขาย 1980 บาท ขายได้ทั่วโลก 1 ล้านก๊อปปี้
มือ 2 เกมเมอร์ขายกันเอง 1600 ขายได้ 2 แสนแผ่น
มือ 2 เกมเมอร์ขายกันเอง 1200 ขายได้ 2 แสนแผ่น
เท่ากับเกมนี้มีความต้องการในตลาดทั้งหมด 1.4 ล้านแผ่น แต่ บ.เกมดูดไปได้ 1 ล้านแผ่น หรือ 1,980 ล้านบาท

หากเกมเทพ มือ 1 ขาย 1,600 บาท ขายได้ทั่วโลก 1.2 ล้านก๊อปปี้ บ.เกมได้ไป 1,920 ล้านบาท
หากเกมเทพ มือ 1 ขาย 1,200 บาท ขายได้ทั่วโลก 1.4 ล้านก๊อปปี้ บ.เกมได้ไป 1,680 ล้านบาท

ที่พิมพ์มาทั้งหมด เพื่อจะบอกว่า..ยอดขายที่มากไม่ได้หมายถึงกำไรที่สูงที่สุดครับ
บ.เกม ทราบดีอยู่แล้วในเรื่องเบสิคการตลาด "กลยุทธ์การตั้งราคา" ต้องมีการศึกษามาก่อนเปิดตลาด
การที่ตั้งราคาสูง ย่อมมีเหตุผลทางบัญชีรองรับอยู่แล้ว

ทุกวันนี้ บ.เกม เขาก็ใช้กลยุทธ์การตั้งราคา มาดูดซับความต้องการที่กำลังซื้อน้อยกว่าราคาขาย
เช่น ช่วงลดราคาพิเศษ 20% 40%, ขายควบในราคาพิเศษ ฯลฯ
ยิ่งเกมที่ปล่อยออกมาได้คุ้มทุน หรือ ได้กำไรไปแล้ว ก็จะมีลดราคามาเป็นระลอกๆเลย
เพื่อดูดซับเกมเมอร์ที่มีความต้องการเล่นแต่กำลังซื้อไม่พอในช่วงแรก ไปเป็นกำไรเพิ่มขึ้น

ตลาดมือ 2 มันมีตามธรรมชาติอยู่แล้ว ทุกวงการนั่นแหละ
ถ้า บ.เกม มองตลาดมือ 2 เป็นวิกฤติก็เตรียมเจ๊งได้เลย เพราะนั่นคือ Demand เกมที่เขาละเลย
เขาต้องมองเป็นโอกาส แล้วหากลยุทธ์ด้านราคามาดูดซับไปให้ได้มากที่สุด