Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
[ไม่ใช่การเมืองไทย] กระทู้ 'การเมือง/ความมั่นคง/เศรษฐกิจ/' ระหว่างประเทศ

Reply
Vote
# Mon 25 Jul 2016 : 5:09PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
มือปืนวัยรุ่นมิวนิกคลั่งไคล้ฆาตกรฆ่าหมู่ 77ศพที่นอรเวย์

เผยปูมมือปืนวัยรุ่นกราดยิง 9 ศพมิวนิค ปลื้ม"อันเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก"ฆาตกรสังหารหมู่ 77 ศพที่นอรเวย์ ขนาดใช้เป็นภาพประจำตัวในแอพแชท ลงมือในช่วงครบรอบ 5 ปี


( 24 ก.ค. ) การสอบสวนหามูลเหตุจูงใจที่ทำให้ เดวิด อาลี ซอนโบลี วัยรุ่นอายุ 18 ปี ออกไปกราดยิงอย่างบ้าคลั่งที่ศูนย์การค้าโอลิมเปีย ในนครมิวนิก รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บอีก 16 คนก่อนยิงตัวตาย เริ่มคลี่คลาย ตำรวจเปิดเผยว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการไตร่ตรองไว้ก่อนของวัยรุ่นชาวเยอรมันเชื้อสายอิหร่าน ที่มีประวัติป่วยซึมเศร้า และคลั่งไคล้บรรดาฆาตกรสังหารหมู่ โดยเฉพาะนายอันเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก ที่วางระเบิดถล่มอาคารรัฐบาลในกรุงออสโลว์ ก่อนลงเรือไปกราดยิงเยาวชนอย่างเลือดเย็นที่เกาะอูโทยา รวมมีผู้เสียชีวิต 77 รายเมื่อปี 2554




ตำรวจไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส แต่พบความเชื่อมโยงที่ค่อนข้างชัดเจนกับการสังหารหมู่ของเบรวิก ผู้ก่อการร้ายขวาสุดโต่ง เพราะซอนโบลีลงมือในช่วงครบรอบ 5 ปีพอดีนับจากเหตุการณ์ครั้งนั้น และเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งเผยว่า มือปืนใช้ภาพหน้าของเบรวิกเป็นภาพประจำตัวใน WhatsApp ด้วย

ซอนโบลี มีกระสุน 300 นัดในเป้ และใช้ปืนกล็อก 9 มม.ก่อเหตุ ซึ่งหนังสือพิมพ์ บิลท์ ในเยอรมนี ตั้งข้อสังเกตว่าปืนสั้นชนิดนี้เป็นหนึ่งในอาวุธที่เบรวิกใช้เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนว่าซอนโบลีได้ปืนกระบอกนี้มาได้อย่างไร

ที่ยังเป็นคำถามอยู่ในเวลานี้ก็คือ ซอนโบลีที่มีรายงานถูกกลั่นแกล้งและอยู่แบบโดดเดี่ยวที่โรงเรียน เจตนาฆ่าวัยรุ่นหรือไม่ เนื่องจากเหยื่อ 9 คน เป็นวัยรุ่น 7 คน โดย 3 คนอายุ 14 ปี และอายุ 15 ปีสองคน ที่เหลืออายุ 20 ปีกับสตรีวัย 45


รัฐมนตรีมหาดไทย โทมัส เด ไมซีเร กล่าวว่า มือปืนน่าจะแฮคบัญชีเฟซบุ๊คของวัยรุ่นหญิงคนหนึ่ง เพื่อใช้ส่งข่าวล่อเหยื่อไปที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาห้างโอลิมเปีย จุดที่เริ่มกราดยิง โดยหลอกว่าร้านจะมีอาหารแจกฟรีสำหรับคนที่ไปในเวลา 16.00 น. แต่มือปืนลงมือหลังจากนั้นสองชม.

หลังเกิดเหตุ มีคลิปเผยแพร่แสดงให้เห็นว่า มือปืนยืนบนหลังคาลานจอดรถทุ่มเถียงกับชายอีกคนบนระเบียงใกล้กัน โดยฝ่ายหลังสบถไม่หยุด ขณะมือปืนตะโกนว่า เขาเป็นคนเยอรมัน เกิดที่นี่ ถูกรังแกมาหลายปีแล้ว


พ่อและแม่ของซอนโบลี เดินทางจากอิหร่านมายังเยอรมนีเพื่อขอลี้ภัยช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ปัจจุบัน พ่อประกอบอาชีพคนขับรถแทกซี มารดาทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เดิมเป็นมุสลิมชีอะห์ แต่น่าจะเปลี่ยนศาสนา จึงมีชื่อแรกว่าเดวิด ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในย่านมักซ์ฟอร์ชตัดท์ ที่พักอาศัยของครอบครัวอพยพส่วนใหญ่

เพื่อนบ้านเล่าว่า ซอนโบลีเป็นเด็กขี้อาย ชอบช่วยเหลือ ไม่เคยเห็นเขาโกรธ ขณะคนอื่นๆระบุว่า เป็นคนเก็บตัว


สำนักข่าวดีพีเอ อ้างแหล่งข่าวตำรวจว่า มือปืนชอบเล่นเกมรุนแรง และหนึ่งในฆาตกรที่ยกเป็นไอดอลคือ ทิม เคร็ตชเมอร์ วัยรุ่นเยอรมันอายุ 17 ปี ที่กลับไปยิงสังหารหมู่ 15 ศพที่โรงเรียนเก่า ใกล้เมืองชตุทการ์ท เมื่อปี 2552 ก่อนหลบหนีและยิงตัวตาย นอกจากนี้ จากการตรวจค้นห้องพัก ยังพบหนังสือและบทความเกี่ยวกับการสังหารหมู่ รวมถึงหนังสือชื่อ”เหตุใดเด็กจึงฆ่า : เจาะใจมือปืนวัยเรียน” (Why Kids Kill: Inside the Minds of School Shooters) ที่พบในเป้ของเขา

[Link]



##############################################################################################


มือปืนเด็กเป็นลูกครึ่ง ไม่พ่อก็แม่นี่แหละที่อพยพมา และก็ถ้าไม่ใช่ยิว ก็คงเปลี่ยนศาสนา (อิหร่านก็มียิวนะครับ ยิวอิหร่านนี่ก็เยอะ อิหร่านนี่มีชุมชนยิวที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเลย) เด็กน่าจะเป็นยิว ไม่ใช่อิสลาม เพราะชื่อเดวิดเป็นชื่อต้องห้ามของคนมุสลิม เดวิดเป็นชื่อกษัตริย์ยิวตามที่รู้ๆกัน และถ้ามุสลิมจะใช้ชื่อนบีตั้งชื่อลูก ต้องใช้ชื่อตามคำอิสลาม กรณีคือ "Dawud ดาวู๊ด"


และก็ซอนโบลีนี่เห็นเพื่อนๆในโรงเรียนบอกว่าไม่ค่อยมีใครคบ ออกแนวโดนแกล้ง แต่พี่ชายของซอนโบลีนี่มีเพื่อนเยอะอยู่ แต่คนน้องชอบเก็บตัว และก็ค่อนข้างนิยมพวกขวาจัดหัวรุนแรง ฝักใฝ่พวกนีโอนาซี โดยเฉพาะว่ามี "เบรวิค" เป็นไอดอลจริงด้วย เคยขู่พวกเพื่อนๆที่โรงเรียนว่า "I will kill you all."

Reply
Vote




1 online users
Logged In :