Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
ยังจำพี่ผู้ชายที่ถูกกล่าวหาว่ามีรูที่รองเท้าแล้วเป็นพวกโรคจิตได้ไหม

Reply
Vote
# Tue 26 Jul 2016 : 9:44AM

Sage
member

Since 13/4/2009
(1417 post)
ของแบบนี้พูดยากครับ คือบางอย่างมัน "พัง" ไปแล้ว
ซ่อมให้ตายยังไงมันก็ไม่มีทางกลับมาเหมือนในสภาพก่อนพังได้
เราอาจจะพูดกันได้ง่ายๆว่าคุณต้องเข้มแข็งนะ แต่สภาพจิตใจ การปลูกฝัง ของคนเรามันไม่เหมือนกัน
บางคนพังแล้วอาจจะลุกขึ้นสู้ต่อไหว แต่บางคนเขาพังคือพังไปเลยก็มี ซึ่งพี่เขาน่าจะเป็นอย่างหลัง
เราอาจจะได้รู้ว่าในสังคมโซเชี่ยลมีคนที่เข้าใจ และพร้อมที่จะสนับสนุนพี่เขาอยู่เยอะ
แต่อย่าลืมว่าพวกเราไม่ได้อยู่ในสังคมชีวิตจริงของพี่เขา เราไม่รู้ว่าชีวิตเขาเป็นยังไง
และเขาก็อาจจะไม่รู้ว่าในสังคมนั้นมันยังมีกี่คนที่ยังคนด่าทอเขาอยู่ หรือมีกี่คนที่ทราบข้อเท็จจริงนี้แล้ว
จึงไม่แปลกอะไรที่เขาจะกลัวคนในสังคมไปเลย จนเลือกจะอยู่กับคนที่เชื่อในตัวเขาจริงๆซึ่งก็คือแม่เขา

เราก็คงได้แต่ให้กำลังให้เขาค่อยๆลุกขึ้นไปต่อได้ แล้วก็หวังว่าไอ้การสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมด้วยวิธีแบบนี้มันจะหมดไปสักที


View all 7 comments >
Tue 26 Jul 2016 : 10:47AM

Hyperion
member

Since 7/2/2006
(10192 post)
ขอแย้งครับ คือเข้าใจว่าสังคมของเค้าเราไม่รู้ แต่จะให้มาบอกว่าพังแล้วพังเลยนี่ ผมว่ามันไม่ถูกนะ.... คือถ้าตัวเองรู้ว่ามันพังแล้ว เราจะปล่อยให้มันพังต่อไปเหรอ??? มันต้องลุกขึ้นมาสู้แล้วครับ ไม่ใช่คิดว่ามันพังหมดแล้วจบสิ้นแล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้นอะ

Tue 26 Jul 2016 : 11:27AM

Hellblueboy4
member

Since 17/6/2008
(5078 post)
Hyperion wrote:
ขอแย้งครับ คือเข้าใจว่าสังคมของเค้าเราไม่รู้ แต่จะให้มาบอกว่าพังแล้วพังเลยนี่ ผมว่ามันไม่ถูกนะ.... คือถ้าตัวเองรู้ว่ามันพังแล้ว เราจะปล่อยให้มันพังต่อไปเหรอ??? มันต้องลุกขึ้นมาสู้แล้วครับ ไม่ใช่คิดว่ามันพังหมดแล้วจบสิ้นแล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้นอะ


คนเราความทนทานของจิตใจไม่เหมือนกันครับ

ไอ้การโดนด่าโดนตำหนิมากๆ เนี่ย ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้นะครับ เรื่องจริง ฆ่าตัวตายกันมาก็มากแล้ว

คุณอาจจะคิดว่าโดนด่าแค่นี้ไม่เห็นเป็นไรเลย สู้มันใหม่
แต่คนเราระดับความทนทานของจิตใจไม่เหมือนกันครับ ไม่งั้นโลกเราคงไม่มีคนเสียสติ คนฆ่าตัวตายเยอะขนาดนี้หรอก
อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานสิครับ

แล้วก็สิ่งที่อยู่ในโลกโซเชียลน่ะ มันลามไปสังคมปกติได้ครับ
ลองคิดสภาพผู้ชายคนนี้เดินอยู่กลางเมือง ผ่ามีคนจำหน้าได้
หรือคิดจะขึ้นรถไฟฟ้า มีคนจำหน้าได้ วิตกจริตแจ้งตำรวจ
ผมว่าเขาต้องเคยโดนพวกนี้มาแล้ว

อย่างเมื่อหลายปีที่แล้ว กระแสโซเชียล"แท๊กซี่มอมยา" ร้อนแรง จนมีคนวิตกจริตแจ้งตำรวจ คนขับโดนโดยที่ไม่รู้เรื่อง
ในต่างประเทศโดนจนต้องถูกไล่ออกจากงานก็มีมาแล้ว
[Edited 1 times Hellblueboy4 - Last Edit 2016-07-26 11:27:55]

Tue 26 Jul 2016 : 11:33AM

Sage
member

Since 13/4/2009
(1417 post)
ผมถึงได้บอกไงครับ ว่าสภาพจิตใจของคนเรามันไม่เหมือนกัน
คุณอาจจะมองว่ามันต้องลุกขึ้นสู้ แต่บางคนเขาไม่ได้ต้องการสู้แล้วครับ
ที่บางคนเลือกจะฆ่าตัวตายก็เพราะสาเหตุว่าไม่สามารถเอาชนะความบอบช้ำทางจิตใจได้นี่แหละครับ
พี่เขาอาจจะเลือกวิธีนี้เพราะมันเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว คือเลือกจะอยู่กับแม่
แต่เขาก็อาจจะกลับมาได้ในสักวัน ไม่ใช่ว่าไปแล้วไปลับ แต่มันควรจะใช้เวลาครับ
ไม่ใช่บอกให้อยู่ดีๆลุกขึ้นมาสู้ต่อเลย

ผมเองก็อยากจะให้พี่เขาสู้เช่นกันครับ อยากให้เขาเดินสายเป็นวิทยากรหรือตัวแทนในฐานะเหยื่อ
เพื่อบรรยายถึงไอ้วิธีสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมที่มันบัดซบแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
แต่ในเมื่อเขามีทางออกที่มีความสุขแล้ว เราก็ควรยอมรับในการตัดสินใจของเขาครับ
เพราะถ้าเขาสู้ต่อไปเขาก็ต้องเผชิญกับความบอบช้ำ รวมถึงถ้อยคำด่าทอสุดเน่าเหม็น
ของผู้มีศีลธรรม?ที่มันยังฝังอยู่ในหัวเขา
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะล้มตลอดไป ผมเองก็หวังว่าเขาจะลุกขึ้นมาได้
เพียงแต่อยากให้อยู่ที่ตัวเขาว่าเขาอยากลุกมั้ยเท่านั้นเอง

Tue 26 Jul 2016 : 11:46AM

Hyperion
member

Since 7/2/2006
(10192 post)
Sage wrote:
ผมถึงได้บอกไงครับ ว่าสภาพจิตใจของคนเรามันไม่เหมือนกัน
คุณอาจจะมองว่ามันต้องลุกขึ้นสู้ แต่บางคนเขาไม่ได้ต้องการสู้แล้วครับ
ที่บางคนเลือกจะฆ่าตัวตายก็เพราะสาเหตุว่าไม่สามารถเอาชนะความบอบช้ำทางจิตใจได้นี่แหละครับ
พี่เขาอาจจะเลือกวิธีนี้เพราะมันเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว คือเลือกจะอยู่กับแม่
แต่เขาก็อาจจะกลับมาได้ในสักวัน ไม่ใช่ว่าไปแล้วไปลับ แต่มันควรจะใช้เวลาครับ
ไม่ใช่บอกให้อยู่ดีๆลุกขึ้นมาสู้ต่อเลย

ผมเองก็อยากจะให้พี่เขาสู้เช่นกันครับ อยากให้เขาเดินสายเป็นวิทยากรหรือตัวแทนในฐานะเหยื่อ
เพื่อบรรยายถึงไอ้วิธีสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมที่มันบัดซบแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
แต่ในเมื่อเขามีทางออกที่มีความสุขแล้ว เราก็ควรยอมรับในการตัดสินใจของเขาครับ
เพราะถ้าเขาสู้ต่อไปเขาก็ต้องเผชิญกับความบอบช้ำ รวมถึงถ้อยคำด่าทอสุดเน่าเหม็น
ของผู้มีศีลธรรม?ที่มันยังฝังอยู่ในหัวเขา
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะล้มตลอดไป ผมเองก็หวังว่าเขาจะลุกขึ้นมาได้
เพียงแต่อยากให้อยู่ที่ตัวเขาว่าเขาอยากลุกมั้ยเท่านั้นเอง


เอ่อ.....สรุปที่คุณพูดมามันก็คือที่ผมพูดไม่ใช่รึ? -"- สู้ของผมคือไม่ได้สู้แบบตื่นเช้ามาหายนะครับ ไม่มีใครทำได้อยู่แล้วอะ มันต้องใช้เวลา ที่ผมพูดเพราะในคลิ๊บมันมีที่เขาบอกประมาณว่าอยู่กับแม่ก็พอ บลาๆๆ ไรนั่นซึ่งจริงๆจะอยู่แค่นี้มันไม่ได้อะ คนเรามันต้องมีสังคม คอยติดต่องาน ทำงานไรพวกนี้ด้วย ผมถึงได้บอกว่าต้องสู้แล้วละ แค่นั้นเองครับ

Tue 26 Jul 2016 : 11:48AM

Hyperion
member

Since 7/2/2006
(10192 post)
Hellblueboy4 wrote:
Hyperion wrote:
ขอแย้งครับ คือเข้าใจว่าสังคมของเค้าเราไม่รู้ แต่จะให้มาบอกว่าพังแล้วพังเลยนี่ ผมว่ามันไม่ถูกนะ.... คือถ้าตัวเองรู้ว่ามันพังแล้ว เราจะปล่อยให้มันพังต่อไปเหรอ??? มันต้องลุกขึ้นมาสู้แล้วครับ ไม่ใช่คิดว่ามันพังหมดแล้วจบสิ้นแล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้นอะ


คนเราความทนทานของจิตใจไม่เหมือนกันครับ

ไอ้การโดนด่าโดนตำหนิมากๆ เนี่ย ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้นะครับ เรื่องจริง ฆ่าตัวตายกันมาก็มากแล้ว

คุณอาจจะคิดว่าโดนด่าแค่นี้ไม่เห็นเป็นไรเลย สู้มันใหม่
แต่คนเราระดับความทนทานของจิตใจไม่เหมือนกันครับ ไม่งั้นโลกเราคงไม่มีคนเสียสติ คนฆ่าตัวตายเยอะขนาดนี้หรอก
อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานสิครับ

แล้วก็สิ่งที่อยู่ในโลกโซเชียลน่ะ มันลามไปสังคมปกติได้ครับ
ลองคิดสภาพผู้ชายคนนี้เดินอยู่กลางเมือง ผ่ามีคนจำหน้าได้
หรือคิดจะขึ้นรถไฟฟ้า มีคนจำหน้าได้ วิตกจริตแจ้งตำรวจ
ผมว่าเขาต้องเคยโดนพวกนี้มาแล้ว

อย่างเมื่อหลายปีที่แล้ว กระแสโซเชียล"แท๊กซี่มอมยา" ร้อนแรง จนมีคนวิตกจริตแจ้งตำรวจ คนขับโดนโดยที่ไม่รู้เรื่อง
ในต่างประเทศโดนจนต้องถูกไล่ออกจากงานก็มีมาแล้ว


ทนทานไม่เหมือนกันนี่ผมรู้ครับ แต่คำถามในหัวผมคือ "แล้วจะให้ทำยังไง?" "จะหมกตัวอยู่กับแม่ตลอด? งานการไม่ทำ? ไม่มีสังคมทำงานหาเลี้ยงแม่เลย?" ประมาณนี้แหละ ผมเลยบอกว่ามันต้องสู้นะ จะมานั่งจมทุกข์คงไม่ถูก แต่สู้ก็ใช่ว่าตื่นเช้ามาพรุ่งนี้หายเป็นปกติเลยก็ไม่ใช่นะ.....มันต้องใช้เวลาอยู่แล้วละ

Tue 26 Jul 2016 : 11:59AM

Sage
member

Since 13/4/2009
(1417 post)
ใช่ครับ ผมก็อยากให้เขาลุกเหมือนอย่างคุณนั่นแหละ

แต่ก็อยากให้คิดถึงความต้องการและความรู้สึกของเขาด้วยว่าเขาอยากจะลุกมั้ยเท่านั้นเอง
ไอ้คำพูดที่ว่าคุณต้องสู้ คุณต้องลุกขึ้นมานะ มันใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนหรอกครับ
ถ้าใช้ได้ผลทำไมจึงยังมีคนฆ่าตัวตายอยู่ทุกวัน ทั้งที่มีคนที่ใกล้ชิดคอยปลอบโยนให้กำลังใจด้วยซ้ำ
ความบอบช้ำกับความแข็งแกร่งที่จะรับความเจ็บปวดได้ของคนเรามันไม่เท่ากัน
ที่เขาเลือกอยู่กับแม่มันก็อาจจะเป็นทางที่เขาออกที่ดีสุดที่เขาเลือกแล้ว
และผมเชื่อว่ามันดีกว่าที่เขาจะคิดฆ่าตัวตายเพราะความเจ็บปวด
ดังนั้นเราก็ควรเคารพในสิ่งที่เขาเลือก จะเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาต้องมีสังคม เราไม่ควรไปคิดแทนเขาครับ
เพราะถ้าในเมื่อเขาอยู่ได้ผมว่ามันก็โอเคแล้ว


Tue 26 Jul 2016 : 12:02PM

Hyperion
member

Since 7/2/2006
(10192 post)
Sage wrote:
ใช่ครับ ผมก็อยากให้เขาลุกเหมือนอย่างคุณนั่นแหละ

แต่ก็อยากให้คิดถึงความต้องการและความรู้สึกของเขาด้วยว่าเขาอยากจะลุกมั้ยเท่านั้นเอง
ไอ้คำพูดที่ว่าคุณต้องสู้ คุณต้องลุกขึ้นมานะ มันใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนหรอกครับ
ถ้าใช้ได้ผลทำไมจึงยังมีคนฆ่าตัวตายอยู่ทุกวัน ทั้งที่มีคนที่ใกล้ชิดคอยปลอบโยนให้กำลังใจด้วยซ้ำ
ความบอบช้ำกับความแข็งแกร่งที่จะรับความเจ็บปวดได้ของคนเรามันไม่เท่ากัน
ที่เขาเลือกอยู่กับแม่มันก็อาจจะเป็นทางที่เขาออกที่ดีสุดที่เขาเลือกแล้ว
และผมเชื่อว่ามันดีกว่าที่เขาจะคิดฆ่าตัวตายเพราะความเจ็บปวด
ดังนั้นเราก็ควรเคารพในสิ่งที่เขาเลือก จะเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาต้องมีสังคม เราไม่ควรไปคิดแทนเขาครับ
เพราะถ้าในเมื่อเขาอยู่ได้ผมว่ามันก็โอเคแล้ว



ผมไม่ได้ไปบังคับเค้าให้สู้นะ คือในฐานะผม ก็ทำได้แค่บอกให้สู้อยู่แล้ว แค่นั้นเอง จะสู้หรือไม่ก็แล้วแต่ซิ ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวใดๆอะ แค่ผมเห็นว่ามันไม่ถูกที่จะมานั่งทุกข์แบบนี้แค่นั้นเอง คือพูดในแง่ของที่เราสามารถทำอะไรได้บ้างอะ


Reply
Vote




1 online users
Logged In :