Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
[Review] PlayStation VR ทดสอบมากกว่า 10 เกม **��าพ+ข้อมูลโหด**

Reply
Vote
# Sun 16 Oct 2016 : 12:08PM

-BNM-
member

Since 11/10/2009
(1890 post)


สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมารีวิว PlayStation VR หลังจากสัมผัสการใช้งานมาเกือบ 2 วัน ทดสอบเกมไปหลายสิบเกม รวมทั้งหนังเวอร์ชั่น VR 360 องศาต่างๆ ส่วนตัวเคยลองทั้ง Oculus Rift, Vive และ VR Headset ราคาประหยัดทั้งหลาย(หลักร้อยถึงพันที่ต้องใช้กะมือถือ) ตัว Walker ดิชั้นยังบากบั่นไปหาลองมาแล้ว เลยค่อนข้างจะรอคอยและอยากสัมผัส VR จาก Sony มากๆ ว่าเป็นอย่างไร มีข้อดี-เสียอย่างไร ลองอ่านประกอบการตัดสินใจกันดูได้นะคะ (เขียนยาว+ภาพเยอะไม่นิดนึง)

==UNBOXING==
เปิดกล่องมาตัวแพ็คเกจทำได้เก๋ดีค่ะ ทั้งการดีไซน์และสี ดูเรียบง่ายแต่หรูหราดี ของภายในใส่กล่องแยกหลายกล่อง ชอบตรงมีหมายเลขบอก เพราะเวลาเก็บจะได้เก็บถูกที่ อุปกรณ์เยอะมากๆ ค่ะบอกเลย สายยุบยับ


อันนี้คือสิ่งที่จะได้มาในชุดบันเดิ้ลแบบ + PlayStation Camera นะคะ สนนราคาสำหรับคนจอง(ไม่เอาราคาขาดตลาด) 16,990 บาท ราคาลงจากตอนประกาศครั้งแรกไป 2,000 บาท ถือเป็นเรื่องดีสำหรับคนจอง แต่คนไม่จองอย่าเพิ่งรีบ ลองอ่านต่อไปก่อนนะจ๊ะ


รูปทรง VR ดูล้ำมาก แถมสีก็ฉีกจากเจ้าอื่นที่เน้นดำ อันนี้สีขาว+ไฟน้ำเงินตอนเปิด เท่ห์ดีค่ะ ดูอนาคตมาก


ภายในจะบุเป็นหนังแบบหนานิ่มๆ เพื่อให้รู้สึกสบายเวลาสวมใส่ ซึ่งเท่าที่ทดสอบติดกันแบบเป็น ช.ม. ก็รู้สึกสบายดีนะคะ ไม่เจ็บหัวหรือปวดบีบขมับอะไร


ส่วนตัวเป็นคนหัวใหญ่ แต่สามารถปรับขนาดได้ค่อนข้างกว้างมาก คือขยายให้หลวมยังได้เลย ปรับได้ทั้งส่วนด้านหลังศรีษะ และเลนส์จอด้านหน้าให้เข้ามาชิดเบ้าตาของเราค่ะ (ตรงปุ่มกลมๆ กดแล้วเลื่อนได้)


Processing Unit ไว้ประมวลผลแปลงให้ทั้ง TV / PS4 / VR รู้จักกัน ชอบตรงมันยืดไปหน้า-หลังได้ อุปกรณ์และสายเยอะมว๊าก แต่การติดตั้งค่อนข้างง่ายเพราะมีเลขประกอบ ทำตามคู่มือแป๊บเดียวเสร็จ (ของเมย์ต่อกับเครื่องอัดแยกอีกทีก็ยังไม่มีปัญหาอะไร อัดได้ปกติค่ะ)


ติดตั้งหมดแล้วอย่าลืมกล้องเพื่อจับ Motion ของเรา **กล้องนี่ A Must จำเป็นไม่มีใช้งานไม่ได้ค่ะ เพราะมันจะจับ Motion เราไม่ได้** ถ้าพร้อมก็กดสวิตช์เปิด VR ได้เลย (มีปุ่มไว้ปรับเสียงและปิดไมค์ด้วยค่ะ)


พร้อมแล้วใส่เลย อ้อ! เมย์ไม่ได้ใช้หูฟังที่แถมมานะคะ (ตอน PS4 หรือ X1 ก็ไม่เคยใช้ ใช้ Razer ที่ใช้ประจำตลอด) พอเปิด Power แล้ว VR จะเปล่งแสงสีน้ำเงินทั้งด้านหน้าและหลังดูล้ำยังกะกำลังแปลงร่างมากๆ


เกมที่จะทำการรีวิวตามนี้ค่ะ (มีนอกเหนือจากนี้ที่โหลดบน PS Store ด้วย)


เข้าสู่ขั้นตอนการรีวิวเกมทั้งหมดที่ได้ทดสอบกันเลยค่ะ (คหสต)

ก่อนจะไล่เรียงรายเกม อย่างที่หลายๆ คนได้พูดกันไปแล้วถึงความคมชัดของภาพ ว่าคงคาดหวังแบบขนาด HD 4K ไม่ได้ หรือเอาแค่ให้เหมือนตอนเล่นจอปกติก็คงไม่ได้เหมือนกัน มัน Drop ลงชัดเจนค่ะพอใส่ VR (แม้ภาพบนจอ TV จะเหมือนเดิมแต่เลนส์ตัว VR เป็นอีกอย่าง ซึ่ง Spec Display Resolution อีก 2 เจ้าอย่าง Oculus กับ Vive ก็ดีกว่าด้วย) เท่าที่ทดสอบมาเกิน 10 เกม บางเกมภาพทำได้ดี แต่บางเกมก็ดูแตกแบบเห็นได้ชัด ขึ้นอยู่กับเกมด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ VR ให้ได้มากกว่าจอปกติคือมิติที่สมจริง(ตื่นลึก ใกล้ไกล) ดังนั้นบางสิ่งที่คุณแทบมองไม่เห็นในจอปกติ (ชนิดอยากเห็นต้องเพ่งโคตรๆ) พอใส่ VR คุณจะเห็นได้ง่ายเสมือนอยู่ในที่นั้นจริงๆ แค่อะไรวิ่งตัดหรือเงานิดหน่อยคุณจะสัมผัสได้ ณ Moment นั้นเลย ก็ได้อย่างเสีอย่างค่ะ


1. Resident Evil 7: KITCHEN VR Demo
หลอนกว่าเล่นแบบปกติ รู้สึกชัดเจนว่าทำมาเพื่อ VR ทั้งการบังคับ สภาพแวดล้อมที่เราตอบสนอง กราฟิกเสียงประกอบต่างๆ ค่อนข้างประทับใจมาก ที่ไม่ชอบก็ตรงที่มันโคตรสั้นและต้องเสียตังค์ 36 บาทไทย คือสั้นแบบนี้ไม่กี่นาที คหสต ควรจะฟรีมากกว่า เพราะ Launch หลายๆ เกมที่เป็น Demo Free นี่โคตรยาวเลย แถมของ Zone 1 US มันก็ฟรีด้วย ทำไม Zone 3 ต้องเสียตังค์? สรุป ชอบ ปสก ที่ได้รับ เพียงแต่มันสั้นเกินไปค่ะ (ด้วยความที่มันแป๊บเดียวเลยไม่มีอาการ Motion Sickness ใดๆ)

2. PlayStation VR Demo Disc (รวมหลายเกม อาจไม่ได้พูดครบหมด เช่นที่ใช้ Move จะข้าม)


2.1 DriveClub VR Demo
เปลี่ยน ปสก การขับรถแบบเดิมๆ ไปเลย ปกติไม่ใช่คอเกมแนวขับรถอยู่แล้ว แม้จะเคยเล่นมาบ้าง แต่พอบังคับด้วย VR มันรู้สึกสมจริงจนตอนเวลาเข้าโค้งหรือจะชนรถคันอื่นรู้สึกกลัวเหมือนว่าตัวเองจะชนจริงเจ็บจริง เมย์เคยลอง Racing Simulator ที่มีโช็คลูกสูบแบบเวลาขับตัวเราจะกระเด้งกระดอนได้จริงยังไม่รู้สึกกลัวเลยนะ แต่ VR มันหลอกสมองให้กลัวได้ซะงั้น เวียนหัวรอบแรกไม่เท่าไหร่อาจเพราะตื่นเต้นกับความแปลกใหม่ แต่พอเล่นไปสักพักต้องหยุด สรุป ขนาด Demo ยังไม่ไหว ตัวเต็มขับยาวๆ คงอ้วกพุงแน่ๆ


2.2 Headmaster
โคตรสนุก! ในบรรดาตัว Demo ถ้าจะมีเกมไหนที่ยอมเสียตังค์ซื้อ (มี 2 เกม) Headmaster คือ 1 ในนั้นค่ะ ตอนแรกไม่สนใจเลย แถมเป็นเกมเกือบสุดท้ายที่ลองด้วยซ้ำ เพราะตอน Promo Teaser อะไรต่างๆ เราก็จะเห็นเกมอย่าง DriveClub, Rigs, Until Dawn อะไรพวกนี้ แต่เกมนี้ม้ามืดมาก คือมันก็หม่งบอลปกติอ่ะ แต่สนุก เราต้องโยกหัวเราจริงๆ แล้วองศาที่หัวเราจะหม่งก็ทำได้ดีด้วย ตอนบอลลอยเข้ามาใกล้ก็รู้สึกสมจริงดี ครั้งแรกเลยคิดว่าเฮ้ย หัวจะเจ็บจริงไหม 55+ ด่านต่างๆ ก็ออกแบบมาได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่หม่งเข้าประตุ มีแต้ม มีการดีไซน์แปลกๆ และ Dev มีมุขตลก(ไม่สปอยล์)อย่างมาก สรุป ประทับใจมากสำหรับเกมนี้


2.3 Battlezone
ในบรรดาเกมชวนอ้วก เกมนี้มีมากสุด คนอื่นเมย์ไม่แน่ใจนะคะ แต่เกมนี้นี่รอคอยมาก จากตอนดูโปรโม พอเล่นจริง ..หยุดแพ็พ.. แล้วพยายามใหม่ แต่ไม่ไหว ไม่ผ่าน ไม่ประทับใจเพราะจะอ้วกแตก ไม่รู้ว่าด้วยมุมกล้องหรืออะไรแต่ว่าไม่ผ่านสำหรับเมย์ค่ะ (gameplay ไม่ได้แย่ ยิงศัตรู เก็บเพชรยังกะคุ๊กกี้รัน สนุกดี แต่มันแย่ตรงเล่นไม่ได้)


2.4 Rigs Mechanized Combat League
เกมกีฬาฉบับโลกในอนาคต ขับหุ่น ล้มคู่ต่อสู้ ทำแต้ม มีเสียงพากย์บรรยายขณะแข่งขัน ตอนแรกที่เปิดคิดว่าสงสัยไม่ไหวแน่ ขนาด Battlezone ยังไม่โอเค แต่พอเล่นจริง อ้าวเล่นได้แหะ สนุกด้วย งงตัวเอง อาการ Motion Sickness นี่แล้วแต่เกมจริงๆ ค่ะ เกมนี้เมย์ไม่เป็นแถมยังชอบด้วย สนุกดีค่ะ ทั้งกราฟิก(ทำได้ค่อนข้างดีเลยเทียบกับเกมอื่นๆ) sound และ gameplay ต่างๆ ขนาดตัวเรากระโดดลอยยิงได้ ก็ไม่รู้สึกเวียนหัวชวนอ้วกอะไรขนาดนั้นแหะ (มีแต่ในระดับน้อยที่ไม่กระเทือนความบันเทิง) แต่ที่อ่านบางคนเล่นกลับจะอ้วก น่าจะขึ้นกับแต่ละบุคคลนะคะ สรุป ชอบค่ะแต่คงไม่มากพอขนาดซื้อตัวเต็มมาเล่น


2.5 Wayward Sky
เป็น 1 ใน 2 เกมที่ยอมเสียตังค์ซื้อค่ะ gameplay ทำได้ดีมาก คือผสม puzzle แก้ปริศนาและการบังคับแบบคล้าย point & click แต่เป็นในเวอร์ชั่น VR คุณจะเห็นภาพได้ทั้งมุมมองบุคคลที่ 1 ตอนแก้ puzzle ซึ่งต้องใช้จอยหรือ Move ขยับตอบสนองต่อสิ่งของตรงหน้าเอง ต้องหมุน ต้องยื่นไปข้างหน้า-หลังจริงๆ และเห็นภาพแบบบุคคลที่ 3 ตอนบังคับ ดีไซน์ตัวละครให้อารมณ์ประมาณเกม Little Big Planet น่ารักๆ น่าเอาใจช่วย เล็กกระทัดรัด แม้เกมจะสั้นแต่ทำได้ประทับใจ ไร้ Motion Sickness ใดๆ


2.6 Until Dawn: Rush of Blood
ครบทุกรสค่ะเกมนี้ ทั้งหลอน(นิดๆ) ตกใจบ้าง(หน่อยๆ) หวาดเสียว(เล้กน้อย) แต่ความมันส์นี่เยอะเป็นพิเศษ gameplay หรืออาจต้องเรียก gunplay เพราะเน้นยิงล้วนๆ แต่สนุกดีค่ะ ฉากค่อนข้างโหดและรุนแรง แนวจิตๆ เล่นได้ยาวโดยแทบไม่มีอาการเวียนหัว ทั้งที่มีฉากรถไฟดิ่ง/เหวี่ยงไปมา แต่อยู่ในขั้น entertain มากกว่าจะชวนอ้วก สรุป ทำได้ดี ถ้าใครหาเกม VR เล่นยาวเกมนี้เป็นอีกทางเลือก
ป.ล. เกมนี้ใช้ Move คงจะมันส์กว่าเพราะปืนมันลดต่างระดับได้ แยกเล็งได้ ใช้จอยค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ ยังมันส์ได้อยู่แต่ไม่เต็มที่



2.7 Allumette
ไม่ใช่เกมแต่เป็น Storytelling ฉบับ VR ที่ทำได้โคตรรรรรดี ประทับใจ (แถมยังฟรี!) ทั้งกราฟิก เนื้อเรื่อง เพลงประกอบ งานดีไม่มีเผา นึกภาพเหมือนคุณกำลังนั่งดูนิทานในเวอร์ชั่นการเล่าแบบ Future เพราะคุณชะโงก ก้ม เอียง มองฉากได้แบบ 360 องศา ตัวละครเดินไปไหน ทำอะไรเราก็จะเอียงมองตามได้แบบอิรสระ บางทีลุ้นๆ เราลุกขึ้นแล้วพยายามมองหาว่าไปแอบตรงไหนหว่า เฮ้ย ฟิลลิ่งมันดีมากค่ะ สรุป แนะนำให้รับชมกันดู ทั้งฟรีและดี ไม่มีอะไรจะติค่ะ ปราศจาก Motion Sickness อีกต่างหาก

3. PlayStation VR Worlds (ตัวเต็มราคา 1,390 บาท มีเกมภายในอีก 5 เกมด้วยกัน)
ใครลังเลไปลอง Demo ก่อนได้ค่ะ จริงๆ ก็อยู่ใน Disc Demo ตัวบนนะ แต่อันนี้เวอร์ชั่นเต็มเลยขอรีวิวแยก


3.1 Ocean Descent
รับชมโลกใต้น้ำ ทั้งแบบสวยงามและหลอน(ปลาฉลาม) ตัวนี้เคยไปลอง Demo ที่พารากอน แต่ไม่รู้คิดไปเองไหมว่าฉบับเต็มกราฟิกมันสวยกว่า บรรยากาศที่ได้รับทำได้ดีค่ะ เหมือนเป็นการแนะนำเข้าสู่โลก VR ว่ามันนำเสนออะไรได้บ้าง ซึ่งก็ประทับใจนะ ทั้งตอนมองความสวยงามของปลาและสภาพแวดล้อมใต้ทะเลต่างๆ หรือตอนที่เพชรฆาตว่ายเฉียดเราให้ความรู้สึกหวาดเสียวสมจริง (จังหวะทำได้ดี) sound ก็เพราะด้วย ตอนดูเพลินๆ นี่รู้สึกสงบและผ่อนคลายมากเลย


3.2 The London Heist
เข้าสู่โลกของมาเฟีย เกมนี้ดีตรงมีเนื้อเรื่องด้วย แถม gameplay ก็สนุกด้วย การเล่นจะเล่าเป็นฉากๆ แล้วเราตอบสนองได้ ไม่ใช่แค่บู๊ยิงอย่างเดียว เริ่มเกมมามี tutorial สอนการใช้คอนโทรเลอร์ ตัวเกมมีกิมมิคเก๋ๆ ให้คุณ interact กับสภาพแวดล้อมรอบตัวแบบสร้างสรรค์ในการหยิบจับสิ่งของต่างๆ ไม่ค่อยอยากสปอยล์แต่เอาเป็นประทับใจค่ะ โดยเฉพาะจุดเล็กจุดน้อยต่างๆ เล่นยาวได้ไม่เวียนหัวชวนอ้วก สอบผ่าน


4. Hatsune Miku: VR Future Live Demo
ให้คุณๆ ไปอยู่ในคอนเสิร์ต Miku แบบโลกเสมือนจริง โบกแท่งไฟตามจังหวะ ร่วมเชียร์ไปกับเหล่าสาวก ให้บรรยากาศที่แปลกดี (ส่วนตัวไม่เคยเล่นเกมนี้เวอร์ชั่นปกติ) สามารถเปลี่ยนมุมมองได้ ติดขอบ อยู่หลัง หรือด้านบน แต่มีแท่ง Move จะโยกได้สนุกกว่านะคะ ใช้จอยแล้วไม่ค่อยได้ฟิลเท่าไหร่ แต่เมย์ก็เผลอปรบมือตามกองเชียร์นะ เห็นเค้าตบกันก็ตบ ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกับ gameplay เลย -*-


5. THE PLAYROOM VR (ฟรี)
รวม Mini Game หลายอัน เล่นสนุกๆ ดีค่ะ เกมจับหนู คีบตุ๊กตาแล้วเอามาสะสมประดับในห้องได้ สีสันในเกมสดใสสุดเท่าที่ออกมาในช่วงนี้ หลังจากเกมอื่นเน้นความสมจริง หลอน โหด ต่างๆ เกมนี้เน้นสีสดๆ เพลงจังหวะสนุกๆ gameplay ก็เล่นแนวขำๆ ไม่คิดอะไรมาก อีกอย่างมันฟรี (แต่ถึงฟรีก็ไม่ได้กาก การ interact ทำได้ entertain ดี) ดังนั้นไม่มีข้อติค่ะ อ้อ เกมแนวนี้เล่นได้ยาวไม่มี Motion Sickness แต่อย่างใดเช่นเดิม
ป.ล. ภาพที่เห็นบนจอกับบน VR จะไม่เหมือนกัน บนจอนี่เหมือนผู้ชมมองเข้ามา แต่ใน VR เราจะเห็นในมุมมองคนเล่นจริง


6. Vrideo VR (ฟรี)
เป็น app ที่รวมคลิปสั้นๆ แบบ 360 องศาให้เราดูในเวอร์ชั่น VR (Present by Samsung Gear VR..) ก็มีคลิปมหาศาลค่ะ ดูกันตาแฉะ แถมมีทุกแนว ตั้งแต่สารคดี บันเทิง หวาบหวิว(ไม่ขนาดติดเรต) หลอนสยอง ทั้งหลอนแบบรถไฟเหอะ สนามแข่งรถวิบาก กับหลอนแบบผีๆ มีหมด แนวทัวร์สถานไปเที่ยวที่ก็มี นั่งบอลลูน หรือแนวผ่อนคลายเดินชายหาดมีหมด ที่สำคัญ ฟรี! ค่อนข้างประทับใจ แม้จะสั้น ความละเอียดของภาพเลือกได้ขณะชม มันส่งผลทั้งในจอและเลนส์ชัดเจน คือตั้งแต่ 480p 720p 1080p 2k 4k ก็เลือกแล้วแต่เน็ตบ้านคุณๆ กันนะคะ

ป.ล. ตอนเลือกคลิป k-pop มีสาวๆ มาเต้นล้อมรอบเป็นอะไรที่สมจริงมาก คาดว่าตรงกลางเป็นกล้อง แต่มันรู้สึกแปลกเพราะทุกคนเต้นไปมองเรา(กล้อง)ตลอดทั้งคลิป ก็เป็น ปสก ที่สมจริงในระดับที่ไม่น่าเชื่อ คือรู้สึกแปลกมากอ่ะเพราะเหมือนน้องๆ เต้นตรงหน้าเราจริงๆ แถมทุกคนมองมาที่เราตลอด


7. Rise of The Tomb Raider VR
น่าจะเป็นเกมฟอร์มยักษ์ที่รองรับ VR เกมแรกๆ ที่วางจำหน่าย(แถมออกก่อนอีก) และก็ทำได้ดีค่ะ คุณจะได้เล่นตัว DLC Blood Ties สำรวจคฤหาสน์ตระกูลครอฟท์ หากใครเป็นแฟนเกมนี้ (แบบเมย์) ก็จะรู้สึกคุ้มค่าเป็นพิเศษด้วยความที่ตัวเต็มมันก็แถม DLC นั่นนู่นนี่เยอะอยู่แล้ว ยังจะพวง VR มาให้ด้วย ได้เห็น Lara ในระยะประชิด เป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อดี (ยอมรับว่าเป็นติ่งเกมนี้) แล้วความรู้สึกที่ได้สำรวจในคฤหาสน์เกมที่เล่นมาตั้งแต่เด็กก็ยิ่งประทับใจ การบังคับมี 2 แบบคือจับ Lara วางไปจุดที่เราอยากให้สำรวจ กับบังคับเอง แต่มันไม่ใช่ Free Run ที่จะหันไปทางไหนก็ได้ มีข้อจำกัดในการหัน เพราะมันจะต้องเป็นองศาที่กำหนดเท่านั้น คือคุณบังคับแบบในเกมตอนใช้จอยปกติไม่ได้ น่าเสียดายจุดนี้ไม่งั้นคงจะวิเศษมาก แต่จุดเด่นก็คือการสำรวจและแก้ไขปริศนา Puzzle ต่างๆ ซึ่งทำได้ดี เมย์เล่นจบ DLC ตัวนี้โดยไม่ได้พักและไม่เวียนหัวแต่อย่างใด อาจเพราะเกมมันไม่ได้รวดเร็ดแนวบู๊ แนวเดินหยิบของขึ้นมาหมุน / อ่าน และตีความมากกว่า ใครมีแผ่นอยู่แล้วแนะนำให้ลองโหมด VR ดู ใครยังไม่เคยเล่นภาคนี้ก็แนะนำให้ซื้อมาเล่นดูเหมือนกัน เพราะตัวเกมเวอร์ชั่นปกติทำได้ดีทั้งกราฟิก gameplay และเนื้อเรื่องค่ะ

VERDICT
หลังจากทดสอบไปโคตรเยอะทั้งเกม ทั้ง app หนังอะไรต่างๆ เมย์ค่อนข้างประทับใจ PlayStation VR ในภาพรวม ให้แยกข้อดี-เสียก็เป็นดังนี้ (ย้ำ คหสต)

ดี
- ราคาสบายกระเป๋ากว่า Oculus และ Vive ถูกกว่าทั้งในแง่ตัว VR และ Hardware ที่ใช้ ซื้อมาต่อกับ PS4 ได้เลยไม่ต้องใช้ High end PC (ย้ำว่าต้องใช้กล้อง หากไม่มีซื้อบันเดิ้ลแบบ + กล้องมานะคะ ส่วน Move ไม่จำเป็น แต่บางเกมจะเล่นไม่ได้)
- เกมรองรับเยอะตั้งแต่วันแรก หลายเกมที่ทำมาเพื่อ VR โดยเฉพาะและแนวเกมมีความหลากหลาย ไหนจะบางเกมที่เคยออกให้ 2 เจ้าแรกก็มาลงให้ซ้ำอีก มีแต่ได้กับได้ ยังไม่รวมพวกคลิป 360 องศาต่างๆ ที่ออกมาชาติเศษทำให้มีอะไรให้ลองเยอะตั้งแต่วันวางขาย
- เกม Exclusive ทั้งตอนนี้และในอนาคตที่จะไม่มีบนอีก 2 เจ้า อาทิ Summer Lesson, ไฟนอล15(ณ ตอนนี้), Miku & etc ส่วนใหญ่จากสัญชาติญี่ปุ่นทั้งหลาย

เสีย
- Spec ความละเอียดภาพต่ำกว่าคู่แข่ง
- ถ้าเทียบจำนวนเกม VR บน Steam (ณ ตอนนี้)แล้วราคาเกมแพงกว่าและตัวฟรีต่างๆ ก็น้อยกว่า
- น้ำหนักมากสุดเทียบกับอีก 2 ตัว แต่เอาจริงตอนใส่เมย์ไม่รู้สึกว่ามันเป็นอุปสรรคอะไรนะ

สรุป สำหรับใครยังไม่เคยสัมผัส VR เลย แนะนำให้ไปลองที่ร้านก่อนค่ะ อย่าเพิ่งโยนเงินเกือบ 2 หมื่นไวอย่างยิ่งตอนราคาขึ้นที่ของขาดตลาด หรือแนะนำให้ซื้อตัวประหยัดพวก google cardboard กระดาษแข็ง หรือพลาสติกแบบหลักร้อยมาลองกับ smartphone ดู เพราะ VR มันเป็น Entertainment system แบบใหม่ ที่อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน บางคนแพ็พๆ เบื่อแล้ว เพราะยังไงซะ มันไม่ใช่เกมที่คุณจะเล่นได้หลัก 10 ช.ม. แน่ๆ (ให้รอด 1 ช.ม. ได้ไม่เวียนหัวก็หรูแล้วค่ะ) ส่วนอาการ Motion Sickness ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ปัจจัยล้านแปด เมย์ให้น้องลองนี่อวกแทบพุง ทั้งที่เมย์สายตาสั้นกว่าน้อง น้องสายตาปกติกลับเล่นไม่ได้เลยค่ะ แต่ตัวเมย์เล่นได้ อาการเวียนหัวมีมากน้อยขึ้นอยู่กับเกม สำหรับราคาจองค่อนข้างสมเหตุสมผล (ถ้ายังหาได้นะคะ) แต่ราคาตอนนี้ถ้าเกินที่จองแนะนำให้รอเพราะเดี๋ยวก็มีคนปล่อยมือ 2 เพราะอาจไม่ใช่แนว เกมเต็ม 10 ยังมีปล่อยมือ 2 เลยรอไปไม่กี่วัน หรือแนะนำให้ดูคลิปบนยูทูบประกอบการตัดสินใจ แต่ด้วยข้อดีแล้วถ้าเทียบในบรรดาคู่แข่ง เป็นเมย์ก็เลือก VR ของ Sony เพราะมันประหยัดสุด ความละเอียดแม้จะต่ำกว่าคู่แข่งแต่ไม่ได้ต่างขนาดฟ้ากับเหวภาพ 480p กะ 4k หรืออะไรขนาดนั้น ก็นี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ สงสัยอะไรสอบถามได้นะคะ


**Credit: สุดท้ายนี้เมย์ต้องขอขอบคุณ คุณชัย ที่ให้ยืมเครื่องมารีวิว ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ (คุณชัยไม่ใช่ร้านเกม แต่เป็นเกมเมอร์แบบเราๆ นี่แหละค่ะ) ไม่ต้องการเครดิตอะไรเลยอีก แต่ขอให้ไว้นะคะ โคตรเกรงใจ แถมให้สับ เอ้ย! ติ-ชม ได้ตรงๆ เต็มที่เลย เผื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจสำหรับใครที่สนใจหรือลังเล จะซื้ออยู่นะคะ ลองอ่านประกอบดูได้ค่า**

Reply
Vote




1 online users
Logged In :