Review - xXx : Return of Xander Cage (พี่วินจะทำอะไรก็ต้องดีไปหมด)

ผู้กำกับ : D.J. Caruso (Disturbia, Eagle Eye, I am Number Four)

รสนิยมการดูหนังของผมกับภรรยาต่างกันพอสมควร ผมจะดูหนังเยอะมาก และดูได้ทุกแนว แต่จะชอบพวกที่ลุ่มลึก แนวหวังกล่องมากกว่าหน่อย ส่วนภรรยาผมถ้าไม่ใช่หนังอนิเมชั่นก็จะชอบเป็นพวกหนังฮีโร่มาร์เวลหรือไม่ก็หนังแนวแอคชั่นตูมตามแบบไม่ต้องคิดอะไรมากไปเลย (ซี่รี่ส์ Fast นี่ของโปรดเธอเลย) ด้วยเหตุนี้บางทีรสนิยมไม่ตรงกันผมก็ต้องไปดูคนเดียวบ้าง ดูจบออกมาบางทีก็มีเถียงกันนิดๆหน่อยๆบ้าง แต่ก็มีความสุขไปอีกแบบนะครับ (District 9 ยังคงเป็นเรื่องที่เถียงกันมาจนทุกวันนี้ ผมชอบมากแต่เธอไม่ชอบ 5555) แต่หนังที่จะมารีวิวกันวันนี้เป็นหนังที่ผมกับภรรยาตกลงปลงใจจะเข้าไปดูด้วยกันครับ แน่นอน เธอชอบเพราะมีพี่วินจาก Fast และเป็นแนวแอคชั่น ส่วนผมก็ติดตามผลงานของดอนนี่ เยน และจา พนมอยู่ หนังเรื่องนั้นคือ xXx : Return of Xander Cage นั่นเองครับ



xXx : Return of Xander Cage เล่าถึง Xander Cage (Vin Diesel) อดีตสายลับ xXx ที่หลังจากปลอมการตายของตัวเอง ก็ได้ออกเดินทางไปรอบโลกเพื่อใช้ความสามารถของตนเองช่วยเหลือผู้อื่น แต่เมื่อ Gibbons (Samuel L. Jackson) ผู้เคยชักชวนให้เขาเป็นสายลับ xXx ถูก Pandora’s Box อุปกรณ์สุดอันตรายที่สามารถบังคับให้ดาวเทียมตกตรงไหนก็ได้ฆ่าตาย และล่าสุด Pandora’s Box ก็ไปตกอยู่ในมือของ Xiang (Donnie Yen) และทีมสุดอันตรายของเขา CIA จึงต้องมาง้อ Xander Cage อีกครั้ง เพื่อให้เขานำ Pandora’s Box กลับมาให้ได้



เมื่อเข้าไปชม xXx ภาคนี้ ผมเองก้ไม่ได้หวังอะไรไว้มาก ขอแค่ให้มันสนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก และมีฉากให้พี่จา พนม ได้โชว์ของเยอะหน่อยก็พอแล้ว แต่...หนังก็ทำได้แค่พอผ่านเท่านั้นครับ xXx ภาคนี้ก็คล้ายๆกับหนังที่ Vin Diesel อำนวยการสร้างหลายเรื่อง ที่ตัวละครของเขาจะต้องเป็น Mary Sue (ภาษานักเขียนคือตัวละครที่สมบูรณ์แบบเกินไป) ตลอดๆ ทั้งเรื่องจะไม่ค่อยเห็นเขาทำพลาดเลย จะต้องเท่ รู้ทัน เก่งไปซะทุกเรื่อง แล้วมันก็ดันแพร่มาที่ตัวละครตัวอื่นๆด้วย ทั้ง Xiang ตัวละครของ Donnie Yen และ Serena นางเอกของเราในภาคนี้จะติดการพยายามทำอะไรเท่ๆ พูดอะไรเท่ๆไปซะหมด ซึ่งสำหรับผมมันดูพยายามมากไปหน่อย เมื่อรวมกับฉากบู๊ในช่วงต้นถึงกลางเรื่องที่ค่อนข้างงั้นๆทำให้หนังในช่วงแรกไม่ค่อยสนุกเอาเสียเลยสำหรับผม หนังยังมีปัญหาอีกหลายอย่าง ทั้งความไม่สมเหตุสมผล (CIA บ้านแกสิมีคนเฝ้าอยู่แค่นั้น แถมเป็นคนใส่หมวกกันน็อคขี่มอร์เตอร์ไซค์มายิงใส่ด้วยนะ...) ความพยายามจะพลิกล็อค หักหลังกันไปมา แต่มันทำให้สับสนเปล่าๆมากกว่า และตัวละครที่มีเยอะมากแต่ยังเกลี่ยบทไม่ดี บางตัวมีประโยชน์น้อยมากอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายหนังก็ฟื้นตัวมาได้ดีขึ้นกับฉากบู๊ในช่วงท้ายที่ดีขึ้น สนุกขึ้นมากครับ โดยดอนนี่ เยนนี้เป็นคนที่ช่วยชีวิตหนังอย่างแท้จริง ด้วยท่วงท่าคิวบู๊ที่สวยงามและแน่นอนมากจนผมรู้สึกว่าเขาแทบจะเด่นกว่าพี่วินของเราแล้วซะอีกครับ



เรื่องงานภาพนั้นก้ไม่ได้มีอะไรหวือหวาสักเท่าไหร่ งาน CG ก็ยังมีไม่เนียนหลุดมาเรื่อยๆ แถมพวกอุปกรณ์ล้ำยุคต่างๆก็ยังดูก๊องแก๊งไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่นัก เพลงประกอบก็มีแต่เพลงตื๊ดๆซึ่งไม่ตรงจริตผมสักเท่าไหร่ 5555 สุดท้ายคือการแสดง แน่นอนว่าผมก็ไม่ได้หวังอินเนอร์อะไรมากมายกับหนังแนวนี้ จะไปเน้นท่วงท่าการต่อสู้และแอคชั่นมากกว่า พี่วินของเราหน้าเดียวยังไงก็ยังอย่างนั้น แต่ท่วงท่าพอใช้ได้ (เห็นว่ามีคิวบู๊ที่จา พนม ออกแบบให้ด้วย) ส่วนดอนนี่ เยน อย่างที่บอกไปครับว่าหนังสอบผ่านเพราะคนนี้เลย คิวบู๊หนักแน่นสวยงามที่สุดในเรื่องแล้วครับ และสุดท้าย จา พนม ของเรา เรื่องนี้ได้ออกมากกว่า Fast 7 หน่อย บทของเขาจะออกกวนๆ ซึ่งมุกของเขาถึงจะไม่ฮาแตกแต่ก็ทำให้ยิ้มออกได้บ้าง แต่คิวบู๊นี่สิ คงต้องยอมรับความจริงว่าจาอ้วนขึ้น ความสวยงาม ความไวดรอปลงครับ อีกทั้งบทก็ไม่ค่อยเอื้อให้โชว์ท่าสวยๆเท่าไหร่ (อาจจะโดนพี่วินแย่งท่าดีๆไปด้วย) แต่ก้ไม่ได้รู้สึกว่าเฟลอะไรมากมาย ยังคงรอติดตามผลงานเขาต่อแหละครับ

สรุป : เกือบไม่รอดแล้ว ฉากบู๊ตอนท้ายเรื่องกับคิวบู๊สวยๆของดอนนี่ เยน ช่วยชีวิตหนังเอาไว้ให้พอดูเพลินๆได้ ถ้ามีแต่พี่วินโชว์เท่นี่คะแนนคงต่ำกว่านี้อีกครับ 5555

คะแนน : 6.6/10 (C+) ไม่ชอบ ครับ