Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
รีวิวความประทับใจกับ Nintendo Switch โดย Gcon

Reply
Vote
# Sat 4 Mar 2017 : 8:42PM

ray
admin

Since 01/01/0001
(425 post)
ต้องเกริ่นก่อน ว่าดั้งเดิม ไม่ได้มีความตั้งใจจะซื้อเครื่องมาเล่นวันแรก เพราะดูจากสภาพโดยรอบแล้ว คิดว่าน่าจะรอไปซักพักจนกว่าหลายๆอย่างมันจะสมบูรณ์มากกว่านี้ แต่พอถึงวันออกจริงดันโดนกระแสเซลด้ากดดัน ทำให้สุดท้ายต้องตัดสินใจสั่งซื้อแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่ได้เครื่องมา เพราะว่าที่อังกฤษ หาซื้อเครื่องตามร้านไม่ได้เลย แม้แต่คนที่สั่งจองออนไลน์จำนวนมากก็ยังไม่ได้เครื่องวันแรก

ส่วนตัวผมซื้อมาแค่ตัวเครื่องหลัก แล้วก็เกมเซลด้า แค่นั้น ไม่ได้ซื้ออุปกรณ์เสริมหรืออะไรอย่างอื่น เพราะว่าต้องการเอามาเล่นแค่เกมเซลด้าจริงๆ สำหรับรีวิวอันนี้จะเป็นรีวิวแบบหยาบๆ เชิงเล่าความประทับใจเกี่ยวกับตัวเครื่อง มากกว่ารีวิวลงรายละเอียดที่คิดว่าหลายๆท่านคงได้อ่านจากที่อื่นมาแล้วนะ



ก่อนอื่นเลยสำหรับตัวเครื่องหลัก ในกล่องจะแถมมาให้

* เครื่อง (จอ) สวิตช์ พร้อมจอยคอนซ้ายขวา (ผมซื้อสีเทา เพราะสีแดง น้ำเงินหาไม่ได้)
* อแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ (เป็นพอร์ต USBC) สามารถใช้ชาร์จเข้าเครื่องโดยตรง หรือผ่านตัวแท่นเสียบ (Docker) ก็ได้
* แท่นเสียบเครื่อง
* สาย HDMI
* แท่นเสียบจอยคอนแบบธรรมดา (ชาร์จไฟไม่ได้)

ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัส

- ไซส์ของเครื่องพอๆกับที่คิดไว้
- น้ำหนักก็ไม่ได้หนักมาก หรือเบาจนเกินไป
- การเซ้ตอัพค่อนข้างตรงไปตรงมา
- หน้าจอชัดและให้ภาพที่คมกว่าที่คิดไว้พอสมควร
- เสียงลำโพงดังกว่าที่คิด (ซึ่งพอเสียบผ่านหูฟัง ดันเบากว่าที่คิด)
- ตัวแท่นเสียบดูก๊องแก๊งมาก แถมเบาโหวงจนตั้งแล้วล้มตอนที่เสียบสายด้านหลัง ดูพลาสติกกว่าที่คิด ดูเหมือนไม่มีฟังก์ชั่นอะไรเลย นอกจากการเป็นแท่นเสียบ




หลังจากที่ได้ทดลองเล่นตัว OS กับเปิดเข้าเกมไปซักพัก ค่อนข้างเจอปัญหาเล็กๆน้อยๆอยู่พอสมควร

WIFI สัญญาอ่อนและใช้งานกับบางเน็ตเวิร์คไม่ได้

ผมทดลองต่อเข้าอินเตอร์เน็ตผ่านเน็ตเวิร์คที่ทำงาน (แอบเห่อ อิอิ) ปรากฏว่าไม่สามารถล้อคอินได้ เพราะเน็ตเวิร์คที่ใช้มันต้องใช้ทั้ง user และ password ในขณะที่ตัว WIFI setup ของสวิตช์เองไม่มีให้ใส่ user (ไม่แน่ใจว่าผมหาไม่เจอเองรึเปล่านะ) ทำให้ไม่สามารถล้อคอินได้เลย จนต้องข้ามขั้นตอนนั้นไป

กลับมาลองต่อ WIFI ที่บ้าน ปรากฏว่าตอนสแกนห้ารอบแรก ไม่เจอร์ WIFI ของเร้าเตอร์ในบ้าน จนกระทั่งรอบที่หกถึงจะเจอ แต่ได้สัญญาณที่อ่อนมากๆ แต่ต้องบอกก่อนว่าตอนที่สแกนหาสัญญาณ ผมเสียบสวิตช์ไว้กับแท่นเสียบ แล้วก็เล่นในห้องนั่งเล่น ซึ่งห่างจากห้องนอนน่าจะประมาณ 15 เมตร แต่ก็ไม่คิดว่ามันควรจะมีปัญหาอะไร เพราะอุปกรณ์ตัวอื่นก็ต่อ WIFI ในบ้านในปกติ ผมต้องพยายามต่ออยู่ประมาณ 7-8 ครั้งกว่าจะติด ซึ่งอันนี้ก็ไม่แน่ใจว่ามีปัญหาที่ตัวฮาร์ดแวร์หรือเฟิร์มแวร์ในเครื่องรึเปล่า

Update OS + Patch

อันนี้ไม่มีปัญหาอะไร หลังจากต่อเข้าเน็ตเวิร์คได้ ตอนเข้า Nintendo eshop ครั้งแรกมันจะบังคับอัพเดตอัตโนมัติเลย ซึ่ง อัพเดตวันแรกก็ไม่ใหญ่มาก ไม่เกินนาทีก็เสร็จ (รวมแพทช์เซลด้าด้วย) หลังจากเข้า eshop ได้ก็ทดลองซื้อเกม otello มาใส่เครื่องดู ก็โหลดมาได้รวดเร็วเรียบร้อย

ตัว OS เท่าที่มีมาให้ตอนนี้ค่อนข้างเล็ก และมีแต่ฟังก์ชั่นพื้นฐาน เช่น setting ของตัวเครื่อง (หลักๆ) , nintendo eshop , joy con และ album (ซึ่งเป็นอัลบั้มรูปที่เราแคปเจอร์มาจากในเกม)



การเล่นบนจอใหญ่ + เล่นบนจอเล็ก

ตอนที่เปิดเครื่องครั้งแรก ผมทดลองเล่นบนจอเล็กที่มากับเครื่องก่อน ซึ่งส่วนตัวประทับใจที่ความคมชัดของภาพมาก เพราะอัตราของภาพจะเป็น 1:1 เลย โดยหน้าจอแสดงภาพ 720p เท่ากับที่เกมแสดงผล แต่ส่วนตัวแอบมีปัญหานิดหน่อยกับสเกลที่ค่อนข้างเล็กมาก รวมถึงความคมชัดที่ชัดเกินไปจนทำให้ขอบหยักถูกแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่พอเอามาต่อจอใหญ่ ปรากฏว่าสเกลของภาพพอดีมาก รู้สึกได้ว่าตัวละครบนจอไซส์พอดีที่จะเห็นรายละเอียดทุกอย่าง และพวกขอบหยักก็เห็นไม่ชัดเท่า ส่วนนึงอาจจะเพราะว่าภาพพูดอัพสเกต และมันไม่ได้ชัดเท่ากับเล่นจอเล็ก ซึ่งอันนี้คงแล้วแต่คนชอบ แต่ส่วนตัวชอบเล่นจอใหญ่มากกว่า เพราะมันเห็นอะไรง่ายกว่าเยอะ ในขณะที่เล่นจอเล็กต้องเพ่งค่อนข้างมาก สำหรับเกมสเกลแบบ เซลด้า

จอยคอน

เล็ก และ ไม่ถนัดมือ การเล่นบนโหมดมือถือ จับค่อนข้างยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเครื่องที่ยาวอยู่แล้ว พอบวกกับจอยคอน ยิ่งยาวออกไปอีก การเล่นเกมที่ต้องใช้การบังคับเยอะๆแบบเซลด้า ค่อนข้างลำบาก ต้องจับแบบหนีบๆ และไม่สามารถบังคับได้เต็มที่เหมือนการเล่นบนคอนโทรลเลอร์ปกติ ซึ่งเมื่อเอามาต่อเข้ากับแท่นเสียบที่แถมมากับเครื่อง ทำให้เล่นได้ง่ายขึ้นพอสมควร เพราะมันมีที่จับด้านข้าง ที่ช่วยให้เราไม่ต้องหนีบตัวจอยคอนมากนัก และสามารถกดปุ่มได้ง่ายขึ้น


แต่ที่ประทับใจมากก็คงเป็นตอนเอามานั่งเล่น otello กับเพื่อน เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความเป็นเครื่องพกพาปาร์ตี้ได้เป็นอย่างดี การเอาจอมาตั้งตรงกลาง แล้วแบ่งบังคับกับเพื่อนคนละจอยเพื่อนเล่นเกม ถือว่าเวิร์คมาก จริงๆสวิตช์น่จะเป็นเครื่องที่เหมาะเอามาเล่นพวกมินิเกม ปาร์ตี้พวกนี้ได้เป็นอย่างดี

แบตเตอร์รี

ก็ตามที่บอกๆกันมา ประมาณสามชั่วโมงก็หมด ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ประทับใจ หรือ ผิดหวังอะไร เพราะมันก็เหมาะสมกับไซส์แบตเตอรี่อยู่แล้ว ส่วนตัวคงไม่ได้กะเอา สวิตช์พกติดตัวออกไปข้างนอกเท่าไหร่ มากสุดคือคงหยิบติดมือมาเล่นบนเตียงก่อนนอน ดังนั้นก็ถือว่าโอเค

กราฟฟิค + การแสดงผล

อยู่ในขอบเขตที่คาดหวังไว้ เพราะสวติช์มันอยู่กึ่งกลางระหว่างการเป็นเครื่องมือถือและเป็นคอนโซล ดังนั้นส่วนตัวไม่ได้คาดหวังว่ามันจะมีพลังการแสดงผลอะไรเยี่ยมยอดมากเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ดีกว่ามือถือทั่วไปแน่นอน มีแอบผิดหวังนิดหน่อยในเรื่องเฟรมเรตของเกมเซลด้า ที่มีจุดดรอปค่อนข้างเยอะกว่าที่คิด ซึ่งแปลกมากตรงที่ส่วนตัวไม่ค่อยเจอเฟรมเรตดรอปตอนเล่นโหมดคอนโซล แต่กลับเจอดรอปตอนเล่นมือถือมากกว่า (ตรงข้ามกับที่อื่นรีวิวมา)




อื่นๆ

ส่วนตัวค่อนข้างชอบตัวฮาร์ดแวร์ของสวิตช์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจอยคอนที่สามารถเสียบเข้าออกบนตัวเครื่อง และแท่นเสียบจอย ทุกอย่างให้ความรู้สึกถึงความพอดี (ทุกครั้งเวลาเสียบ จะได้ยินเสียบ snap ตลอด ฟังแล้วฟินมาก) แถมการเชื่อมต่อก็ไหลลื่นมาก แทบจะไม่เจอปัญหาอะไรเลย ที่สำคัญคือจอยคอนเป็นฮาร์ดแวร์ที่ค่อนข้างซับซ้อนมากนะ แต่ตอนเล่นแทบจะไม่เคยต้องมานั่งพะวงเรื่องเสียบชาร์จ นู่นนี่นั่นเลย เพราะทุกอย่างมันทำให้อัตโนมัติและไหลลื่นมาก ชอบจริงๆ


ก่อนหน้านี้ได้อ่านรีวิวจากต่างประเทศมาที่บอกว่ามีปัญหากับสัญญาณของจอยคอน ซึ่งส่วนตัวยังไม่เจอปัญหานั้นนะ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเพราะผมอาจจะใช้งานในสภาวะปกติก็เป็นได้

แท่นเสียบอาจจะต้องระวังนิดนึงเวลาเสียบเข้าออก เพราะว่ามันไม่มีอะไรป้องกันเลย เป็นพลาสติกแข็งๆที่สามารถกระทบกับหน้าจอได้ตลอดเวลา แนะนำให้หาตัวป้องกันหน้าจอมาแปะไว้ก่อนเลย ถ้าคิดว่าจะมีการเสียบเข้าเสียบออกบ่อยๆ

เวลาเอาเครื่องมาตั้งโดยการดึงแท่นสำหรับพิงเครื่องด้านหลังออกมา ตัวแท่นค่อนข้างบอบบางพอสมควร ดังนั้นอาจจะต้องระวังนิดนึง (จริงๆตัวเครื่องทั้งหมดมันก็ต้องระวังอยู่แล้ว) แต่ตอนเล่นบนเตียง โดยเอาหนังสือมารองแล้ววางเครื่องสวติช์ลงบนหนังสือ ก็สามารถเล่นได้สบายดี ไม่เจอปัญหาอะไร แต่ขอติเรื่องเสียบชาร์จ เวลาเล่นโหมดนี้ เพราะมันทำไม่ได้เลย :( อย่างที่หลายคนรู้ว่าช่องเสียบชาร์จอยู่ด้านล่าง

แอบขอติเรื่องสายชาร์จด้วย เพราะนินให้มาแต่สายชาร์จที่เป้นหม้อแปลง ซึ่งหลักๆเหมาะสำหรับเสียบเข้ากับแท่นวางเครืองมากกว่า ส่วนตัวเลยต้องซื้อสาย USB -> USBC มาเพิ่ม เพื่อเอาไว้ใช้เสียบชาร์จตอนหยิบมาเล่นในโหมดมือถือ

ควรซื้อตอนนี้มั้ย?

ส่วนตัวคิดว่าเหตุผลเดียวถ้าเพื่อนๆจะซื้อมาเล่นตอนนี้ก็คือเซลด้า แค่นั้นเลย ถ้าอยากเล่นเกมเซลด้า ซื้อมาเล่นซะ (เพราะยังไงในอนาคตก็มีเกมนินเทนโด้ออกมาเรื่อยๆอยู่ปล้ว) เพราะมันเวิร์คมากๆ

แต่ถ้าไม่ได้จำเป็นอยากที่จะเล่นเซลด้ามากขนาดนั้น แนะนำว่าให้รอ ถึงแม้ว่าสวิตข์จะเป็นเครื่องที่ทำฮาร์ดแวร์ออกมาดีมาก ทุกอย่างผ่านการออกแบบ และวางแผนให้ทำงานร่วมกันได้อย่างไหลลื่น แต่ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือทุกอย่างมันค่อนข้างแบร์โบนมากๆ คือมีแต่เครื่องและเกม ตัว OS เองยังไม่ค่อยมีฟังก์ชั่นอะไรเลย แถมเกมที่มีให้เล่นตอนนี้ก็น้อยมาก (ส่วนตัวไม่สนใจเกมอื่นเท่าไหร่) แม้แต่มินิเกมที่เอาไว้โชว์ฟังก์ชั่นเครื่องอย่าง 1-2 switch เองก็ไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่ แถมยังขายแพง ค่อนข้างเห็นด้วยกับบางคอมเม้นก่อนหน้านี้ที่บอกว่านินเทนโด้รีบออกสวติช์มาก่อน ประมาณกึ่งๆเป็น soft launch แต่ทุกอย่างน่าจะพร้อมจริงๆ ก็คงราวๆปลายปี หลังจากที่มีเกมใหญ่ๆออกมาหลายเกมแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่มาริโอ้ออกพอดี

คะแนน

ไม่มี ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมรีวิวฮาร์ดแวร์ต้องมีคะแนน จริงๆนะ ยิ่งกับระบบที่จะมีการอัพเดตฟังก์ชั่นเข้ามาเรื่อยๆแบบนี้ด้วย อ่านรายละเอียดข้างบนเอาละกันว่าชอบไม่ชอบ 5555 ...


----------------------------------------

Impression โดย b4lmung


ขอพูดแต่สิ่งที่พี่เรย์ไม่ได้เขียนไว้ด้านบนละกัน

- ตัวเครื่องวัสดุโอเค ดีกว่าที่คิด ผิว Joy-con คล้ายๆ Vita slim เป็นรอยง่าย รู้เลยว่าเอาเล็บไปขูดตรงไหนบ้าง
- เครื่องพอๆ กับ Vita รุ่นแรก หนักกว่า Vita slim (อันนี้ตามความรู้สึก ไม่มีเครื่องชั่ง)
- ตัวคอนโทรลเลอร์ มีจุดที่ไม่ชอบคือการวางปุ่ม L R เล่นเกม Zelda เผลอไปโดนเรื่อยๆ (กดปาอาวุธทิ้งซะงั้น)
- ขาตั้งเนี่ยก๊องแก๊งมากอย่างที่หลายๆ ที่เขียนไว้ แต่ที่สำคัญคือมันปรับระดับไม่ได้ ทำให้เวลาตั้งบนโต๊ะที่มีความสูงไม่เหมาะสมแล้วล่ะก็จะขัดใจ ต้องหาสมุดหนังสือมารองอีกที
- พัดลมถ้าทำงาน ถ้าเล่นในห้องเงียบๆ จะดังจนรู้สึกได้อยู่ แต่ก็คงไม่มีอะไรดังเท่า PS3 เครื่องอ้วนแล้วล่ะมั้ง
- (อันนี้บ่น) ตัว Dock เนี่ย ใส่ LAN มาก็ได้นะ T_T

[Edited 6 times b4lmung - Last Edit 2017-03-05 09:45:37]

Reply
Vote




1 online users
Logged In :