สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ปรับเปลี่ยนนโยบาย ตามความวุ่นวายไวรัสของการบิน



หลังจากอุบัติเหตุจากการเดินทางไปถึงเรื่องไวรัสที่น่าทึ่งที่สุด เดวิด เดาได้ยกเลิกการเดินทางจากเที่ยวบิน เนื่องจากมีการจองตั๋วมากเกินไปในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ประกาศให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เดอะ แอสโซซิเอตเต็ท เพรสส์รายงานว่าพวกเขาจะเพิ่มขีดจำกัดข้อเสนอค่าเสียหายของพวกเขา เป็น10,000 เหรียญแก่ผู้โดยสารที่สูญเสียที่นั่งของพวกเขา ผู้โดยสารบนเที่ยวบินของเดาได้รับเงินเพียง 800 เหรียญ ถึงแม้ว่าวงเงินปัจจุบันจะอยู่ที่ 1,350 เหรียญก็ตาม

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่สายการบิน ทำอยู่พวกเขากำลังพยายามลดการจองตั๋วเกินจำนวน และเพิ่มการฝึกอบรมให้แก่พนักงาน



รายการการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้รับการเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ในรายงานการทบทวนและการปฏิบัติงานของเที่ยวบิน 3411 ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่เดาฝืนใจออกจากเครื่องบิน

1.ยูไนเต็ดจำกัดการบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัย และปัญหาด้านความปลอดภัยเท่านั้น
2.ยูไนเต็ดจะไม่ต้องการให้ลูกค้านั่งบนเครื่องบินโดยไม่ได้ตั้งใจ จนกว่าความปลอดภัยหรือจากความเสี่ยงใดๆ
3.ยูไนเต็ดจะเพิ่มแรงจูงใจในการชดเชยผลประโยชน์ของลูกค้า ในการปฏิเสธการขึ้นเครื่องบินแบบสมัครใจสูงสุด 10,000 ดอลลาร์
4.ยูไนเต็ดจะจัดตั้งทีมโซลูชั่นสำหรับลูกค้า เพื่อจัดหาตัวแทนด้วยโซลูชั่นที่สร้างสรรค์
5.ยูไนเต็ดจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าทีมงานได้รับการจองเที่ยวบิน อย่างน้อย 60 นาทีก่อนการเดินทาง
6.ยูไนเต็ดจะเปิดโอกาสให้ตัวแทนที่มีการฝึกอบรมประจำปีเพิ่มเติม
7.ยูไนเต็ดจะสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับการชักชวน อาสาสมัครเพื่อเปลี่ยนแผนการเดินทาง
8.ยูไนเต็ดจะลดปริมาณการจองเกินจำนวน
9.ยูไนเต็ดจะช่วยให้พนักงานสามารถแก้ไขปัญหา การให้บริการลูกค้าได้ในขณะนี้
10.ยูไนเต็ดจะกำจัดเทปสีแดงบนกระเป๋าที่หายไป



"ผมละเมิดความไว้วางใจจากสาธารณชนในเหตุการณ์นี้ และเราจะต้องตอบสนองอย่างไร
ผู้คนต่างรู้สึกผิดหวังและผมสงสัยว่า มีคนอีกจำนวนมากที่อาจจะคิดว่าไม่ได้ขึ้นบินกับเรา"ซีอีโอ ออสการ์ มูโนซของยูไนเต็ด แอร์ไลน์กล่าวกับเดอะ แอสโซซิเอตเต็ท เพรสส์


United CEO Oscar Munoz

การปะทุระล่าสุดให้กับบริษัทการตายลึกลับของกระต่ายตัวใหญ่ ไซม่อนเป็นกระต่ายอายุ 10 เดือนที่เติบโตขึ้นมากพอที่จะได้รับสถิติโลก ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแถลงการณ์ยูไนเต็ดกล่าวว่า "รู้สึกเศร้าใจที่ได้ยินข่าวนี้"

ข้อมูลจาก:AOL
[Link]