Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
[บทสรุป] Dragon Quest XI : การตามหาช่วงเวลาที่ขาดหายไป

Reply
Vote
# Tue 5 Sep 2017 : 8:25PM

Agent Molder
member

Since 2014-10-18 17:38:48
(112 post)
การเริ่มต้นครั้งใหม่
หลังจากเยี่ยมหลุมศพแล้ว ทุกคนก็ติดใจสถานที่นึง ซึ่งคามิวเห็นตอนบินอยู่คนเคโทส สถานที่นั้นอยู่ทางใต้ของกรอตต้า พวกเราจึงไปกันที่นั่น ไปถึงก็พบว่าเป็นสถานที่ที่คล้ายกับวิหารเทพ แต่เก่ามากๆแล้ว ด้านในจะพบรูปสลัก และพบหนังสือโบราณ เขียนไว้ว่า ณ สถานที่หนึ่ง สามารถที่จะทำให้กระแสแห่งเวลาไหลย้อนกลับ และสามารถที่จะนำสิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้ ทุกคนก็ดีใจ เพราะมีความหวังว่าจะชีวิตเวโรนิก้าขึ้นมาได้ เดินสำรวจรอบๆก็จะพบกับฟันเฟืองศักดิ์สิทธิ์ รอว์บอกว่าทางเหนือสุดของแผ่นดินโรโตะเซตาเซีย มีหอคอยอยู่ ซึ่งเป็นหอคอยที่ไม่มีกุญแจเข้าไปได้ น่าจะลองไปดู
ใช้เคโทสบินไปทางเหนือสุด จะพบสถานที่นึง เป็นหอคอยลึกลับ เดินไปถึงหน้าหอคอย ต้องใช้ฟันเฟืองในการเปิดประตู พอเข้าไปได้แล้ว เมื่อเดินไปจนสุดทาง จะพบกับผู้เฝ้าดูกาลเวลา(คล้ายยชชิตัวสูง) ผู้เฝ้าดูกาลเวลาบอกว่า การที่จะฟื้นคืนสิ่งที่สุญเสียไป ทำได้วิธีเดียวคือการย้อนเวลากัลบไปแก้ไข โดยใช้พลังและดาบผู้กล้าฟันไปที่ออร์บแห่งกาลเวลา แต่ผลที่ตามมาคือ ผู้กล้าจะไปได้แค่คนเดียว ไม่สามารถกลับมาได้อีก และเวลาทั้งหมด รวมถึงสิ่งที่ทำมาในปัจจุบันจะหายไป หมายความว่าเวโรนิก้าก็ยังมีชีวิตอยู่ในห้วงเวลานั้น รวมถึงอุลโนก้าด้วย ถ้าทุกคนยอมรับได้ ก็มาคุยกับผู้เฝ้าดูกาลเวลาอีกที
เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนจึงเดินเข้าไปขวางผู้กล้า และไม่ยอมให้ผู้กล้าไป เพราะกลัวจะไม่ได้เจอกันอีก แต่สุดท้ายผู้กล้าก็ตัดสินใจไป ยังไงเพื่อนๆก็ห้ามไม่ได้ ทุกคนจึงเปิดทาง แล้วให้กำลังใจผู้กล้า เกรกบอกว่าย้อนไปตอนนั้นชั้นคงยังเป็นศัตรูกับนาย แต่เชื่อเถอะ ถ้าตัวชั้นตอนนั้นเข้าใจ ชั้นก็จะเป็นโล่ให้นายได้ เซเนียฝากฝังเวโรนิก้าด้วย จากนั้นผู้กล้าเดินเข้าไปที่ออร์บแห่งกาลเวลา ใช้ดาบโรโตะเล่มใหม่ ฟันเข้าไปที่ออร์บแห่งกาลเวลา ทั้งดาบและออร์บก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ผู้กล้าของเราทำการย้อนเวลากลับไปสู่จุดเริ่มต้น พบเจอกับการผจญภัยตั้งแต่ต้น จนสุดท้ายมีถึงตรงเมืองศักดิ์สิทธิ์แลมด้า 1 วันก่อนที่พวกเราจะเดินทางไปยังต้นไม้แห่งขีวิต ฟื้นขึ้นมาตรงป่าข้างๆเมือง
เมื่อตื่นขึ้นมาก็เข้าไปในเมืองแลมด้า ได้เจอกับเวโรนิก้ากำลังสวดภาวนาให้ผู้กล้าและทุกคนปลอดภัย (เวโรนิก้าจางงง) จากนั้นทุกคนก็เข้ามาเจอ คารมิวแซวเรื่องดาบว่าไปเอามาจากไหน(นั่นดิ ไม่งงกันเลยเรอะ) เมื่อเตรียมพร้อม ทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังป่าศักดิ์สิทธิ์แห่งต้นไม้แห่งชีวิต เหตุการณ์เดิมๆที่เคยเกิดขึ้นก็เกิดซ้ำเดิม จนในที่สุดก็ถึงใจกลางของต้นไม้แห่งชีวิต ขณะที่ผู้กล้ากำลังเอื้อมมือหยิบดาบ ก็นึกขึ้นได้ถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ใช่แล้วโฮเมรอสนั่นเอง ผู้กล้าหันกลับหลัง ใช้ดาบฟันคาถาโดลม่าของโฮเมรอสสลายไป!!! ทุกคนตกใจ รวมถึงโฮเมรอสเองก็ด้วย โฮเมรอสจึงใช้พลังของลูกแก้วแห่งความมืด สาดใส่ทุกคน แต่ผู้กล้ากระโดดขวาง ใช้ดาบปีศาจฟันพลังออร่าของลูกแก้วสลายไป ดาบเริ่มมีรอยร้าว โฮเมรอสจึงเข้าสู้ด้วยตัวเอง แต่ก็สู้ไม่ได้พ่ายแพ้ให้กลับกลุ่มผู้กล้า ผู้กล้ากระโดดเข้าไปฟันลูกแก้วแห่งความมืดแตกกระจาย ดาบปีศาจก็แตกเป็นชิ้นๆด้วยเช่นกัน
ขณะนั้นราชาแห่งเดคาดาลก็เข้ามาพร้อมเกรก โฮเมรอสเอื้อมมือไปที่ราชาหวังว่าอุลโนก้าที่อยู่ในร่างจะเป็นคนช่วย แต่แล้ว ราชาก็ใช้ดาบฟันฉับ โฮเมรอสขาดใจตายทันที ร่างสลายไป เหลือเพียงจี้ห้อยคอแห่งเดคาดาล หรือว่าราชาแห่งเดคาดาลคนนี้จะไม่ใช่อุลโนก้า!!! ราชาบอกว่าข้าโดนโฮเมรอสเป่าหูมา 16 ปี ต่อจากนี้ข้าจะไม่ตกเป็นทาสของมันอีกแล้ว เกรกตกใจที่โฮเมรอสโดนฆ่า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ราชาบอกว่าผู้กล้าเอ๋ย ข้าขอโทษที่เข้าใจผิดมาตลอด เป็นโฮเมรอสสินะที่เป็นสมุนอุลโนก้า ไม่ใช่เจ้า...จากนั้นผู้กล้าก็เดินไปเอาดาบโรโตะมาจากใจกลางต้นไม้ได้ พระราชาเห็นดาบแล้วของขึ้น กำลังจะเอามือไปจับดาบ แต่ก็มีตัวยชชิสีดำโผล่ออกมาตีมือราชาเดคาดาล ราชะชะงักไป แล้วบอกกับทุกคนว่าให้กลับไปที่เดคาดาลเถอะ เราจะเฉลิมฉลองกัน

จุดจบของอุลโนก้า จุดเริ่มต้นของ ????
ที่ปราสาทเดคาดาล ได้มีการเลี้ยงฉลองกัน แม่ของผู้กล้าและเอม่าก็ออกมาจากที่คุมขัง แม่เล่าว่าวันนึงอยู่ดีๆ โฮเมรอสก็นำกองทหารเข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้าน และนำมารวมตัวกันที่ลานกว้าง จากนั้นก็สั่งฆ่าทุกคน แต่นายพลเกรก ได้ห้ามเอาไว้ และให้จับทุกคนมาขังไว้ใต้ปราสาทแทน แต่ตอนนี้พอโฮเมรอสถูกปราบแล้ว นายพลเกรกจึงปล่อยพวกเราให้เป็นอิสระ จากนั้นทุกคนก็ร่วมงานเลี้ยงฉลองกัน
ตกกลางคืนขณะที่ผู้กล้านอนหลับ พระราชาเดคาดาลได้แอบย่องเข้ามาที่ห้อง ในขณะที่กำลังเอื้อมมือหยิบดาบโรโตะ ก็มียชชิตัวสีดำโผล่มาเอามือปัดไปที่มือของพระราชาเดคาดาล จนดาบตกลงพื้น พระราชาตกใจตะโกนออกมา ผู้กล้าจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นรีบวิ่งไปคว้าดาบ (นอกจากสลบบ่อย และตื่นสายกว่าคนอื่นแล้ว ยังหลับลึกอีกไอ้นี่) พราราชาเดคาดาลตะโกนขึ้น ดาบ ดาบแห่งผู้กล้านั่นต้องเป็นของข้า เพื่อนๆทุกคนกรูกันเข้ามา ตกใจกับภาพที่เห็น มัลทีน่าบอกว่านี่ไม่ใช่พ่อชั้นนี่ รอว์บอกว่า ชั้นรู้จักกับราชามา 10 กว่าปี แกไม่ใช่แน่นอน คามิวบอก แกมันทานูกิจอมเจ้าเล่ห์ใช่มั๊ย พระราชาเดคาดาลเห็นว่าคนเข้ามาเยอะ จึงหายตัวไป ทุกคนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงวิ่งออกไปตามหา ทหารบอกว่าเจ้ารูกี้(สุนัขของเราตอนเริ่มเกมส์) วิ่งไปทางหน้าห้องพระราชาแล้วเห่าส่งเสียงดัง พวกเราเข้าไปด้านใน ก็พบกับพระราชาเดคาดาล นั่งแสยะยิ้ม ดวงตาสีแดงบนบันลังค์ ราชาเดคาดาลยืนขึ้นหัวเราะ แล้วก็มีร่างเงาออกมาจากตัวราชา ใช่แล้ว อุลโนก้านั่นเอง อุลโนก้าบอกว่า จริงๆข้าจะใช้พลังผู้กล้า เพื่อชิงดาบนั้นมา แต่ในเมื่อแกได้ไปแล้ว ก็คงต้องใช้กำลังกันล่ะ เข้ามาเลย...พวกของผู้กล้าร่วมกันต่อสู้กับ จอมเวทย์มารอุลโนก้า และปราบมันลงได้ ก่อนอุลโนก้าตาย ได้เหลือบไปเห็นยชชิสีดำโปล่ออกมา อุลโนก้าจึงทิ้งท้ายไว้ว่า “หึ ไม่ใช่แกคนเดียวหรอกนะ ที่น้อรเวลากลับมาได้น่ะ อ๊ากก” ทุกคนไม่เข้าใจที่อุลโนก้าพูด แต่ผู้กล้าแอบสะอึก(คนเล่นด้วย) หลังจากจบเรื่อง ทุกคนก็พากันดีใจที่จอมมารถูกปราบสิ้นแล้ว โลกกลับสู่ความสงบสักทีสินะ...จากนั้นทุกคนก็พักผ่อนกันต่อ

นิสเซลฟา
ในคืนนั้นเอง ขณะที่ทุกคนนอนหลับ ยชชิตัวสีดำ ก็โผล่ขึ้นมาข้างๆผู้กล้า แล้วออกเดินทางออกจากปราสาทไป ในตอนเช้า ขณะที่ทุกคนกำลังฉลองกันอยู่นั้น จู่ท้องฟ้าก็มืดลง มีทหารวิ่งเข้ามาบอกว่าเกิดอะไรขึ้นบนท้องฟ้าก็ไม่รู้ ให้ไปดูที่ระเบียง คามิวนึกถึงคำที่อุลโนก้าทิ้งท้ายไว้ จากนั้นพวกเราก็วิ่งขึ้นไปที่ระเบียงปราสาท ก็พบว่าท้องฟ้าสีแดงน่ากลัว เวโรนิก้าชีไปบนท้องฟ้า ก็พบลูกทรงกลมสีแดงกำลังตกลงมา “ดาวของผู้กล้า!!” รอว์พูดขึ้นมา ทำไมดาวแห่งผู้กล้า ถึงตกลงมาแบบนี้
ภาพตัดไปที่ยชชิสีดำ ที่กำลังทำพิธีที่เมืองซามาดี้ ก่อนที่ผู้กล้าจะย้อนเวลามา อุลโนก้าร่างบึ้ก ได้พุ่งมาฟันดาวนี้สลายไป แต่คราวนี้ไม่มีอุลโนก้าแล้ว ยชชิสีดำ บอกออกมาว่า เมื่อไม่มีอุลโนก้า ร่างเนื้อของข้าจะได้กำเนิดใหม่ มาเลย ร่างกายของช้าเอ๋ย ข้ามเวลามาบรรจบกับข้า จากนั้นยชชิได้พุ่งไปที่ดาวแห่งผู้กล้า และเกิดเป็นจอมเทพมารยักษ์ขึ้น แล้วก็มีควันสีดำมาห่อหุ้มตัว แล้วลอยขึ้นไปบนฟ้า เหนือปราสาทซามาดี้
ทุกคนกลับลงมาประชุม พระราชาบอกว่าให้ไปดูที่เนินทราบบาคาราบ้าข้างๆซามาดี้ แต่ท้องฟ้าเป็นแบบนี้ คาถาลูร่าใช้ไม่ได้ ให้ไปที่ท่าเรือเดคาดอสต้า เกรกจึงขอาสาไปกับเราด้วย เกรกบอกเราว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ ข้าจะเป็นโล่ให้นายเอง แล้วเราก็จะได้เกรกร่วมเดินทาง...จากนั้นพวกของผู้กล้าทั้ง 8 คน ก็เดินทางไปที่ชายหาเดคาคอสต้า ขณะกำลังไปถึงชายหาด ก็ปรากฏร่างของอุลโนก้าขึ้นมา ทุกคนตกใจ แต่ร่างอุลโนก้านั้นบอกว่า ข้าไม่ใช่อุลโนก้า แต่พวกเจ้าเห็นข้าในร่างนี้งั้นรึ จากนั้นร่างอุลโนก้าก็คืนร่างเป็นผู้นำทาง(คนที่เราเจอตอนตกน้ำ) ผู้นำทางบอกว่า ขลุ่ยแห่งตำนาน เอาออกมาใช้สิ แล้วเรียกพาหนะเทพเคโทสออกมา เพื่อไปยังวิหารแห่งเทพ ข้าบอกเจ้าได้เท่านี้แหล่ะ แล้วก็หายตัวไป เวโรนิก้าหยิบเอาขลุ่ยออกมา ถามพระเอกว่า นายรู้เรื่องนี้งั้นหรือ อ่ะ นายลองเอาไปใช้ละกันนะ จากนั้นผู้กล้าก็เอาขลุ่ยไปเป่า เคโทสก็บินออกมารับตัวเพื่อนเราทั้งหมดขึ้นไป เวโรนิก้าหันมามองผู้กล้าแล้วบอกว่า ดูเหมือนนายจะไม่ตกใจเลยนะ ทั้งเรื่องขลุ่ย และเรื่องปลาวาฬบินนี่ ยังกับรู้มาก่อนเลย ผู้กล้าไม่ได้บอกอะไร(เป็นใบ้ทั้งเรื่อง) จากนั้นพวกเราก็บินไปที่วิหารแห่งเทพ
เมื่อไปถึงวิหารเทพ ก็พบกับเผ่าเทพ เครอน บอกว่าท่านคือผู้กล้าและผองเพื่อนสินะ เพราะผู้ที่ขี่เคโทสได้มีเพียงผู้กล้สเท่านั้น ตอนนี้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น พวกท่านจงไปพบผู้เฒ่าของเราเถอะ เมื่อไปถึงปรัมพิธี ก็พบผู้เฒ่าสูงสุดแห่งชาวเทพ อีโกลเทป นอนหลับอยู่ เครอนบอกว่าผู้เฒ่า อายุนาวเท่าโลกใบนี้แหล่ะ แกชอบหลับบ่อยๆ เดี๋ยวเขาจะเล่าให้เราฟังเอง ดูภาพฝาผนังประกอบนะ

“ในสมัยกาลก่อน ได้มีจอมปีศาจเกิดขึ้นจากนรกชื่อว่า นิสเซลฟา เพื่อต้องการแย่งชิงพลังของต้นไม้แห่งชีวิต ต้นไม้แห่งชีวิตจึงได้ให้กำเนิดชายคนนึงขึ้นมา นั่นก็คือผู้กล้าโรชู ผู้กล้าโรชูได้ทำการขี่เคโทส รวบรวมสมัครพรรคพวก ได้แก่นักดาบเนลเซ่น นักปราชญ์เซนิก้า และจอมเวทย์อุราโนส และตีดาบแห่งผู้กล้าขึ้นมา และได้ปราบจอมเทพมารนิสเซลฟาได้สำเร็จ” รอว์ถามว่า เมื่อเทพมารถูกปราบแล้ว ทำไมยังกำเนิดใหม่ได้อีกล่ะ เครอนบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน..อยู่ๆ จอมเทพสูงสุดก็ตื่นขึ้นแล้วบอกว่า ให้คุยกับต้นกล้าแห่งชีวิตสิ จากนั้นก็หลับต่อ เครอนบอกให้เราไปเอาเมล็ดไฟศักดิ์สิทธิ์ ในวิหารเทพ เมื่อได้เมล็ดไฟมาแล้ว จอมเทพก็ตื่น และเดินเข้ามามอบพลังคืนให้เราให้เท่ากับก่อนที่จะย้อนเวลากลับมา และบอกว่าให้ไปคุยกับต้นกล้าแห่งชีวิต จะรู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วหลับต่อ...เอาที่สบายใจท่าน เครอนบอกว่าต้นกล้าในห้องนี้คงบอกอะไรพวกท่านไม่ได้ ให้ไปถามชาวเทพด้านอกดูว่ามีต้นกล้าที่ไหนอีกไหมบนโลกนี้ เมื่อเรารู้แล้วว่ามี 3 ต้น อยู่ที่ดุลด้า ที่ทะเลทราบดาฮาร่า และที่หุบเขาใกล้บันเดโฟน พวกเราก็ออกเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ

ตำนานที่แท้จริงของเหล่าผู้กล้าในอดีต
เมื่อมาถึงต้นกล้าแรก ก็เห็นภาพนิมิตผู้กล้าโรชูกำลังตีดาบที่ภูเขาไฟฮิโนโนกิ และเรียกเคโทสมา พวกเราบอกว่าเมื่อกี้คือผู้กล้าโณชูใช่ไหม รอว์บอกให้ไปหาข้อมูลต่อ ไปที่ต้นกล้าที่สอง เห็นภาพนิมิต ว่าผู้กล้าใช้ดาบเพื่อส่งพลังทำให้เคโทสแข็งแกร่งขึ้น แต่ยังไม่ได้คำตอบอะไร เราจึงไปกันต่อ ไปที่ต้นกล้าต้นที่สาม ภาพนิมิตเห็นเคโทสอัพเกรด เอาเขาพุ่งชนดวงอาทิตย์สีดำ แล้วก็พวกผู้กล้าโรชู ก็ได่สู้กับนิสเซลฟา เมื่อภาพหายไป ทุกคนก็ยังงงว่าจะทำยังไงให้เคโทสมีเขา จากนั้นผู้นำทางก็เข้ามา แล้วบอกว่ายังเหลือต้นไม้ต้นสุดท้าย เรียกเวโรนิก้าเข้ามา ให้สร้อยเส้นนึงเพื่อคืนร่างเดิมของเวโรนิก้า และเรียกเซเนียเข้ามา บอกว่าให้อธิฐาน เพื่อเรียกต้นไม้ต้นสุดท้ายออกมา เวโรนิก้าและเซเนียกลายเป็นต้นไม้ต้นสุดท้าย ผู้กล้าเข้าไปสัมผัส ก็เห็นภาพนิมิตต่อ…
หลังจากปราบนิสเซลฟาสำเร็จ ขณะที่ผู้กล้าโรชู กำลังลงดาบสุดท้าย เพื่อกำจัดให้สิ้นซาก ทันใดนั้น!! นักเวทย์อุราโนส ก็ใช้มีดเสียบเข้าข้างหลังโรชูเต็มๆ โรชูล้มลง อุราโนส ดูดพลังของนิสเซลฟาเข้ามาให่ตัวเอง พูดว่า พลังเวทย์มากมายอะไรอย่างนี้ แล้วก็หายตัวไป เนลเซ่น และเซนิก้าก็เข้ามาพบโรชูนอนตายอย่างอเนจอนาถ (ทำไมไม่ชุบ) หลังจากโรชูตาย เนลเซ่น เซนิก้า และท่านผู้เฒ่าสูงสุดก็ตกลงจะผนึกร่างของนิสเซลฟาเอาไว้ ถ้าไม่มีพลังของผู้กล้าและดาบ ก็ไม่สามารถกำจัดร่างเนื้อของนิสเซลฟาได้ ตอนนี้ไม่มีผู้กล้าแล้ว ให้เอาดาบไปเก็บไว้ที่ใจกลางต้นไม้แห่งชีวิตเพื่อกันคนชั่วร้ายมาเอาไป จากนั้นเซนิก้าก็ได้ศึกษาตำราโบราณจนพบวิธีย้อนเวลาได้ เซนิก้านำดาบ??? ไปที่หอคอยแห่งเวลา หวังจะฟันออร์บแห่งเวลาให้แตก แต่ด้วยเซนิก้าไม่ใช่ผู้กล้า ทำให้ดาบหัก แต่ไม่สามารถทำลายออร์บได้ เซนิก้าจึงตรอมใจตายอยู่ตรงนั้น จากนั้นตัวยชชิขาวได้ออกมา ส่งพลัง ทำให้เซนิก้ากลายเป็นยชชิตัวสูงที่คอนเฝ้าดูกาลเวลาอยู่ที่หอคอยแห่งเวลา ตลอดกาล (โคตรเศร้าเลย)
เมื่อภาพนิมิตทั้งหมดหายไป ผู้นำทางจึงเปิดเผยร่างที่แท้จริงขิงตัวเอง ซึ่งนั่นก็คือนักเวทย์ อุราโนสนั่นเอง อุราโนสบอกว่าในขณะที่โรชูกำลังจะทำลายนิสเซลฟา จู่ๆความชั่วในจิตใจก็ส่งเสียงออกมาว่าให้ฆ่าโรชูซะ แล้วเจ้าจะได้พลังอันยิ่งใหญ่(ได้ยินเสียงแว่วยังกะคนบ้า) ข้าเองทำไปโดยไม่รู้ตัว พอรู้ตัวอีกที ข้าก็กลายเป็นจอมมารอุลโนก้าไปแล้ว แต่ตัวตนที่ดีของข้ายังคงหลงเหลืออยู่ พออุลโนก้าถูกพวกเจ้าปราบ ข้าเลยได้ออกมา (เอ่อ แล้วตอนออกมาที่ชายหาดล่ะ มาไงหว่า) ฝากพวกเจ้าช่วยสานต่อสิ่งที่โรชูทำไว้ด้วยเถอะ ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว ลาก่อน..
เคโทสสวมเกราะ
จากนั้นพวกเราก็กลับไปที่วิหารเทพ จอมเทพผู้เฒ่าบอกว่า ที่อุราโนสทำแบบนั้น เพราะอุราโนสเป็นจอมเวทย์มนต์ดำที่แข็งแกร่งที่สุดในโรโตะเซตะเชีย ทำให้ในใจเขายังคงมีความมืดที่ใฝ่หาพลังตลอดเวลา ทำให้ทำในสิ่งที่ไม่ควร...เอาล่ะ พวกเจ้าอยากเจอเซนิก้าสินะ งั้นข้าจะมอบฟันเฟืองศักดิ์สิทธิ์นี้ให้แก่เจ้า เมื่อพวกเราได้ฟันเฟืองศักดิ์สิทธิ์ ก็ตรงไปที่หอคอยแห่งกาลเวลา ไปถึงชั้นบน เจอยชชิตัวสูง หรือก็คือเซนิก้านั่นเอง เวโรนิก้าเข้าไปถามว่าท่านคือท่านเซนิก้าใช่ไหม แต่ยชชิบอกว่า ใครเหรอ ข้าไม่รู้จัก เวโรนิก้าจึงเอาขลุ่ยออกมา บอกว่าท่านจำอะไรได้บ้าง เราต้องการพลังเพื่อกู้โลก ผู้เฝ้าดูกาลเวลาบอกว่า อืม..ข้าก็จำอะไรไม่ได้หรอกนะ แต่ขลุ่ยนี่ จำได้ว่าพลังของมันน่าจะมากกว่านี้ รู้สึกว่ายังมีโน๊ตที่ยังไม่ได้เล่นอยู่ เจ้าลองเล่นดูสิ....
เซเนียและเวโรนิก้า จึงเริ่มบรรเลงเพลงขึ้น (เป็นเพลงนกราเมียใน DQ3) ร่วมกับพลังของดาบผู้กล้า ทำให้เคโทสได้ทำการอัพเกรด สวมเกราะ และมีเขา เพื่อพร้อมที่จะเข้าต่อสู้กับเทพมารนิสเซลฟา เมื่อพวกเราทั้งหมดขึ้นมาที่เคโทส เคโทสก็บอกว่า พลังของนิสเซลฟามหาศาลมากนัก ถ้สยังไงอยากให้พวกเจ้าไปที่ห้องที่ผอดผนึกที่ปราสาทบันเดโฟน เพื่อทำการฝึกฝีมือกับท่านเนลเซ่นก่อน เมื่อพร้อมแล้วค่อยกลับมาสู้กับนิสเซลฟา

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสุดท้าย
หลังจากเคโทสอัพเกรดแล้ว พวกเราได้ทำการฝึกฝีมือ ลงไปฝึกกับบททดสอบของเนลเซ่น และออกตามหาไอเทมสุดยอดต่างๆ ทั้งดาบผู้กล้าเล่มใหม่ หอก คทา ไม้เท้า แส้ กงเล็บ บูมเมอแรง รวมถึงชุดเกราะต่างๆจนครบ พร้อมกับช่วยเหลือชาวเมืองต่างๆทั่วโลก ได้แก่
- ปลดปล่อยเอลวิน ท่านพ่อของเราจากเจ้าบาเคม่อนที่ใต้ดินยุกนอร์
- ช่วยเหลือท่านยายาคุ ทำให้มังกรไฟกลับเป็นโฮมูระตามเดิม ปลดแอ่กกงกรรมกงเกวียน
- ไปช่วยแฮนฟรีที่เมืองกรอตต้าจากอาราเกราโตโร่ที่ยังไม่ตาย
- ฟื้นฟูหมู่บ้านอิชิ ให้กลับมาสภาพดีดังเดิม และแต่งงานกับเอม่าจัง (เอ่อโลกจะแตก ยังจะมาแต่งงาน)
- ช่วยกำจัดปีศาจที่เมืองท่าเรือดาฮารูเน่
- กลับไปหาเจโก้ที่เมืองโซลเทโก้ และทำการฝึกปรืออัศวินโกริอาเต้(ซิลเวียนี่แหล่ะ)และอัศวินเกรก
- ไปปราบเชรอนมังกรนักปราชญ์ที่ชั่วร้าย ที่สิงอยู่ในกำแพงหมู่บ้านปูจาราโอ
- ลงไปหาราชินีเงือกเซเลน เพื่อกำจัดปีศาจทะเลเดสเอกิล
- ช่วยเหลือโรเมีย และคิไนจากปีศาจปลาที่ชั่วร้าย
- ช่วยราชินีเครโมรัน ปราบมังกรเนโดรที่ชั่วร้าย
- เข้าสู่สนามฝึกที่สำนักพรตดูลด้า
- สุดท้ายคือตีดาบแห่งผู้กล้าขึ้นมาใหม่
เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็ลุยเข้าไปสู้กับจอมเทพมารนิสเซลฟา ทำการเรียกเคโทส เพื่อบินไปทะลวงดวงอาทิตย์สีดำ เข้าไปถึงก็จะเจอเทพมารนิสเซลฟา (นี่มันเซลจาก Dragon Ball ชัดๆ) รวมพลังทั้งหมด เข้าสู้กับมันกันเถอะ..

บทสรุปและจุดเริ่มต้นแห่งตำนานครั้งใหม่
หลังจากเอาชนะนิสเซลฟาได้แล้ว ก่อนร่างของเทพมารจะสลาย ก็ได้ทิ้งท้ายไว้อีกตามประสาบอสว่า ไม่มีทางที่มีแสง แล้วจะไม่มีความมืด ถึงร่างกายข้าจะสลาย แต่ดวงวิญญาณของข้า จะอยู่ชั่วนิรันด์ แล้วร่างก็สลายไป ดวงอาทิตย์สีดำก็ระเบิกออก เมื่อเคโทสบินออกมาด้านนอก รอว์ก็บอกว่า จบแล้วสินะ การต่อสู้ที่ข้ามผ่านเวลาอันยาวนานตั้งแต่สมัยของท่านโรชู พระเอกบอกทุกคนว่าอยากไปช่วยปลดปล่อยท่านผู้นั้น ทุกคนจึงไปพบผู้เฝ้าดูกาลเวลา เมื่อไปถึง ผู้กล้าได้ใช้พลังแห่งสัญลักษณ์ เพื่อทำให้เซนิก้ากลับสู่ร่างเดิม มอบดาบแห่งผู้กล้า และพลังของผู้กล้าให้กับเซนิก้า เพื่อย้อนเวลากลับไปช่วยโรชูอีกครั้ง...
เช้าวันนึงที่เมืองอิชิ เซเนียกับเวโรนิก้ามาหาที่หมู่บ้าน บอกว่าจะมาเอาดาบแห่งผู้กล้าไปคืนที่ต้นไม้ เพื่อทำตามความปรารถนาของเซนิก้า ผู้กล้า เสโรนิก้า และเซเนีย จึงออกเดินทางไปยังต้นไม้แห่งชีวิต เมื่อผู้กล้าคืนดาบไปไว้ที่เดิน ก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้น หัวใจแห่งต้นไม้ กลายเป็นเทพมังกรศักดิ์สิทธิ์ เทพมังกรเล่าว่า สมัยบรรพกาล ได้ต่อสู้กับนิสเซลฟาและพ่ายแพ้ ก่อนที่จะตาย เหล่าชาวเผ่าเทพได้รวมตัวกันสวดวิงวอน ทำให้ข้ากลายเป็นต้นไม้แห่งชีวิต ที่คอยผลิใบไม้(มนุษย์) เพื่อรอคอยการมาของผู้ที่จะปราบนิสเซลฟาลงได้ และในที่สุด ผู้กล้าคนนี้ก็เป็นผู้ปราบนิสเซลฟาได้ เรื่องราวของเจ้าจะถูกกล่าวขานต่อไปอีกนานในฐานะผู้กล้าโรโตะ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีแสงสว่าง ก็ย่อมมีความมืด หากวันใดมีผู้ที่มาจากความมืดอีกล่ะก็ จงหยิบดาบเล่มนี้ เพื่อทำลายมัน....จากนั้นมังกรก็สลายไป ดาบโรโตะก็ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นไปยังผู้กล้าของภาค 1 ที่กำลังปราบริวโอ และส่งต่อไปยังภาค 2 – 9 สุดท้ายเป็นฉากที่เซนิก้าย้อนอดีต วิ่งออกตามหาโรชู ทั้งคู่มาเจอกัน จับมือกัน และที่มือของทั้งสองก็มีสัญลักษณ์ผู้กล้า 2 อันภาพมืดลง...
เวลาผ่านไปนานแสนนาน เรื่องราวของผู้กล้าโรโตะ ต้นไม้แห่งชีวิต และมังกรศักดิ์สิทธิ์ ก็ได้กลายเป็นตำนานสืบต่อกันมาในหนังสือ เช้าอันสดใส ครบรอบวันเกิด 16 ปีของเด็กหนุ่มคนนึง คุณแม่ของเด็กคนนั้นหลังจากอ่านตำราโรโตะเสร็จ ก็เดินขึ้นไปชั้นสอง ไปปลุกเด็กคนนึงจากเตียง...”นี่ๆ ตื่นได้แล้ว วันนี้เป็นวันที่เจ้าต้องไปพบพระราชานะ”...

Fin.

Reply
Vote




1 online users
Logged In :