Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review - Kingsman : The Golden Circle (Take me home, Country Roads)

Reply
Vote
# Tue 26 Sep 2017 : 2:15AM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2337 post)
Review - Kingsman : The Golden Circle (Take me home, Country Roads)

กำกับ : Matthew Vaughn (Kick Ass, X-Men : First Class, Kingsman : The Secret Service)

หนังภาคต่อของซีรี่ส์ Kingsman ที่ภาคแรกมาอย่างเงียบๆแต่กลายเป้นหนังที่เกิดกระแสปากต่อปากจนกลายเป็นซีรี่ส์ดังขึ้นมาได้ สำหรับภาค 2 นี้ถือเป็นหนึ่งในหนังที่ผมรอคอยมากที่สุดของปีเลยทีเดียว แต่กระแสรีวิวกลับออกมาค่อนข้างแป้กซะงั้น (Rotten Tomatoes ขณะนี้ได้ 50%) มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มาดูกันครับว่าผมคิดอย่างไรกับ Kingsman 2



Kingsman : The Golden Circle เล่าถึง Eggsy (Taron Eggerton) ที่หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เขาก็ได้กลายมาเป็นสายลับ Kingsman รหัส “กาลาฮัท” แต่แล้ว สำนักงานใหญ่ของ Kingsman ก็ได้ถูกทำลายลงโดยฝีมือของ Poppy (Julianne Moore) ราชินียาเสพย์ติดเจ้าขององค์กรค้ายา The Golden Circle เหล่า Kingsman ที่เคยยิ่งใหญ่บัดนี้เหลือเพียง Eggsy และ Merlin (Mark Strong) เท่านั้น พวกเขาจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากเหล่า “Statesman” องค์กรสายลับสัญชาติอเมริกา เพื่อที่จะช่วยกันทำลาย The Golden Circle ให้ได้ แต่ที่สำนักงานของ Statesman นี้เอง ที่พวกเขาได้พบกับเพื่อนเก่าที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบกันอีก...



เมื่อผมได้ชม Kingsman : the Golden Circle ในช่วงแรกก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมคำวิจารณ์ถึงไม่ค่อยดี เพราะฉากแอคชั่นเปิดเรื่องนั้นทำมาได้สนุกดีมากจริงๆ มันเป็นฉากแอคชั่นที่เต็มไปด้วยท่วงท่าอันเก๋ไก๋ และมุมกล้องอันหวือหวาฉับไวตามสไตล์ Matthew Vaugn ที่เขาทำไว้จนเป็นเอกลักษณ์ใน Kingsman 1 แต่เมื่อหนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆก็เริ่มเห็นปัญหาครับ การดำเนินเรื่องหลายอย่างในเรื่องพยายามจะทำแบบ Kingsman 1 มีการพยายามใช้ Shock Factor เพื่อสร้างความตื่นเต้นตลอดเวลา แต่มันทำได้ไม่กลมกล่อมพอและทำได้ไม่ถึงแบบภาคแรก และการตัดสินใจทางด้านเนื้อเรื่องหลายๆอย่างที่รู้สึกว่าน่ากังขา แทนที่จะมีการสำรวจลงลึกในองค์กร Kingsman ต่อหนังกลับทิ้งตรงนี้ไปและเลือกที่จะเปิดตัว Statesman แทน แต่แล้วเหล่า Statesman ก็ถูกปฏิบัติเหมือนกับเป็นตัวประกอบเท่านั้นเพื่อที่หนังจะได้ไปเน้นในการเอา Harry Hart ตัวละครที่หลายคนชื่นชอบกลับมา ซึ่งตัวละคร Harry นั้นก็ดีแหละครับ ความเท่ห์และเสน่ห์มนุษย์ลุงจากภาคแรกก็ยังมาเต็ม แต่รู้สึกว่าการมาของลุงทำให้องค์ประกอบอื่นๆของหนังถูกทิ้งไปหมดเลย อีกทั้งปมบางอย่างของลุงก็ไม่ได้ถูกสำรวจลงลึกไปอีกด้วย อีกอย่างที่ขัดใจผมคือการพยายามยกระดับตัวละครเจ้าหญิง Tilde ขึ้นมาให้เหมือนเป็น “นางเอก” ของเรื่องกลายๆ คือเรามีตัวละครจากภาคแรกที่ถูกปูไว้อย่างดีอยู่แล้ว หนังดันมาพยายามปั้นเจ้าหญิงนี้ที่โผล่มาแค่ท้ายภาคแรกเท่านั้น แล้วผลที่ได้ก็ไม่ค่อยน่าพอใจผมว่าตัวละครเจ้าหญิง Tilde นั้นไม่น่าสนใจสุดๆ แต่หนังก้ดันทิ้งท้ายพล็อตไปในทางนั้นซะหมดแล้วก็หวังว่าภาคต่อมันจะดีขึ้น



อีกสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าดรอปลงไปจากภาคแรกมากคือ “ตัวร้าย” ครับ ตัวร้าย Poppy ของเรานั้นทำมาดูมีคาแรคเตอร์ชัดเจนดี แต่เอาจริงๆมันค่อนข้างกลวงเลยแฮะ แล้วแผนการของเธอเมื่อเทียบกับ Valentine จากภาคแรกนั้นเทียบกันไม่ได้เลย และสุดท้ายการเอาชนะเธอและตัวร้ายอื่นๆก็ทำได้อย่างง่ายดายแบบแทบจะจบในฉากเดียวกันเลยครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหนังก็ไม่ได้แย่ไปซะหมด มุกตลกต่างๆก็เป็นสิ่งที่หนังทำได้ไม่ค่อยหลุด มุกล้อการเมืองถึงจะโต้งๆไปหน่อยแต่ก็ยังขำแบบยิ้มแหยๆได้ แต่มุกเกี่ยวกับดารารับเชิญท่านหนึ่งนั้นผมชอบมากเป็นพิเศษครับ และหนังก็ยังมีซีนอารมณ์ซีนหนึ่งที่มาแบบ Unexpected แต่ทำได้ดีทีเดียวและเป็นซีนที่ตัวละครหนึ่งขโมยซีนไปแบบเต็มๆ แต่มาคิดอีกทีก็ค่อนข้างเสียดายเหมือนกันครับ (ทำไมเสียดาย ต้องไปดู 555)



เรื่องงานภาพนั้นยังคงความดีงามในสไตล์เดิมที่มีฉากบู๊อันหวือหวากึ่งๆลองเทคและมีมุมกล้องชึบชับฉับไว ดูสนุกมากๆ แต่ก็ยังไปไม่ถึงขั้นฉากโบสถ์ในตำนานจากภาคแรกได้ครับ ส่วนดนตรีประกอบ มีการลดการใช้เพลงจี๊ดๆลงหน่อย แต่เพลงมีทีก็มาอย่าง Effective มาก โดยเฉพาะเพลงสำคัญที่สุดในภาคนี้อย่าง Country Roads, Take Me Home ก็ทั้งไพเราะและกินใจทีเดียวครับ สุดท้ายการแสดง Colin Firth ยังคงรับบท Harry Hart ได้อย่างเป๊ะ เสน่ห์จัดเต็ม เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นกำลังสำคัญที่ผลักดันหนังตระกูลนี้จริงๆ Taron Eggerton ในบท Eggsy ยังสู้ Colin Firth ไม่ได้จริงๆแฮะ ถือว่ายังต้องเรียนรู้กันต่อไป Julianne Moore นางก็เล่นคาแรคเตอร์นางได้ชัดดีนะ แต่บทของนางขาดความลึกเอง ไม่รู้จะทำไง 555 และ ...(ไม่บอก) ที่สั่งลาได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงจะน่าเสียดายไปหน่อยก็ตามครับ

สรุป : หนังพยายามทำในหลายๆอย่างที่ทำให้ภาคแรกสำเร็จ แต่ภาคนี้ทำไม่ถึงยังไงไม่รู้ แต่ก็ยังดูสนุกและมีส่วนดีอยู่ครับ

คะแนน : 7.6/10 (B+) เฉยๆครับ
[Edited 3 times Slashmeplease - Last Edit 2017-09-26 02:19:53]

Reply
Vote




1 online users
Logged In :