Menu
Home
News
Space
N
Market
Forum
Feed
ทั้งหมด
ทั่วไป
เกม
อนิเม / มังงะ
ซื้อขาย
บทสรุป
แจ้งปัญหา
[--mobilemenu--]
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ขอลิ้งยืนยันใหม่
ลืมรหัส
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
[email protected]
หรือ
[email protected]
ทั้งหมด
>
ทั่วไป
[ไม่ใช่การเมืองไทย] กระทู้ 'การเมือง/ความมั่นคง/เศรษฐกิจ/' ระหว่างประเทศ
#การเมืองระหว่างประเทศ
Tweet
Reply
Vote
#
Wed 27 Sep 2017 : 11:12PM
toranin
member
Since 19/8/2008
(10420 post)
โคตรเกรียน
สำหรับหลายๆคน "Siamese Talk" คือคำด่า ที่ฝรั่งเอาไว้ใช้ด่าคนไทย
แต่สำหรับเฮียแล้ว มันคือคำชม ที่ได้ยินทีไรก็เป็นต้องยืดทุกที
ทุกท่านเอ๋ย โปรดจงรู้ไว้เถิด ไอ้คำว่า "Siamese Talk" เนี่ย เป็นคำที่แสดงถึงแสนยานุภาพด้านการทูตของไทยจนถึงขนาดต้องบัญญัติศัพท์มาด่าโดยเฉพาะ
เพราะฉะนั้นเฮียจึงไอด้อนแคร์เอามากๆ เพราะพวกยูแม่งเสือกโง่ไม่ทันเหลี่ยมไอเอง
จะแคร์อะไรกับคำพูดไอ้ขี้แพ้อย่างอังกฤษ
แถมไอ้หัวทองอย่างพวกยูมาด่าไอว่านกสองหัว แหม่ตัวเองสันดานดีตายห่า ทั้งตอแหล หน้าด้าน ขี้โกง เอาเปรียบ สันดานอย่างพวกยูพูดเรื่องนี้ได้หรือ
ว่างๆไม่มีอะไรทำก็ร่างสนธิสัญญามาเอาเปรียบชาวบ้าน รอบที่แล้วโดนไปทีนึงก็น่าจะรู้พิษสงด้านการทูตของประเทศไอแล้วนะ แต่ไม่เข็ด ว้อนรอบสอง นี่ไอไม่อยากจะด่าควายนะ เพราะควายมันยังรู้เรื่องกว่ายูอีก
สิงโตที่โดนกระต่ายกระโดดกัดหูแล้วหนีไปเห่าอยู่ในถ้ำ ยังกล้าออกมาด่ากระต่ายว่าเล่นไม่แฟร์อีกหรอ
เผื่อใครไม่รู้นะครับ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นยกพลมาบุกไทยแบบสายฟ้าแลบ จอมพลปอนายกสมัยนั้นขอความช่วยเหลือไปยังอังกฤษสัญญาว่าจะช่วย พอถึงเวลาจริงเสือกบอกตัวใครตัวมัน ดูดู๊สันดานไอ้คนที่มันยกตัวเองว่าเป็นผู้ดี สุภาพบรุษ ตระบัติสัตย์หน้าด้านๆ พอๆกับเพื่อนฝรั่งเศสของมึงเลย สุดท้ายจอมพลปอก็ตัดสินใจยอมเป็นเพื่อนกับญี่ปุ่นแม่งเลย
นี่เป็นการตัดสินที่เฮียโอเคเลยเพราะจอมพลปอเลือกได้ฉลาดเอามากๆทำให้ไทยรอดพ้นจากการเป็นนานกิงสาขาสองได้สำเร็จ ถือว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องทีาเฮียชมจอมพลปอ
แต่ก็ใช่ว่าไทยเราจะไว้ใจญี่ปุ่น จอมพลปอก็แอบมีหลังไมค์กับฝ่ายสัมพันธมิตรไว้เหมือนกัน ไหนจะขบวนการเสรีไทยอีก
แม้จะประกาศว่าอยู่ฝ่ายอักษะอย่างเป็นทางการ แต่ลับหลังก็ช่วยฝ่ายสัมพันธมิตร เพราะในสงคราม ไม่รมีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร ฝ่ายไหนชนะก็อยู่กับคนนั้น
ชนะได้โดยไม่ต้องรบ ฉลาดชิบหาย
กลยุทธ์ทางตำราพิชัยสงครามที่ดีที่สุดไทยเราใช้มาแล้วนะครับแหม่
สุดท้าย หลังจบสงครามอังกฤษแม่งก็รีบเสนอหน้า "มาเลยมึง มึงแพ้แล้ว จ่ายค่าปรับกูมาซะดีๆ"
ดูดู๊สันดานของอังกฤษ ว่าตอแหลขนาดไหน
มรว.เสนีย์ได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับไปว่า "คxยเหอะ"
อันที่จริงท่านไม่ได้พูด แต่เฮียเชื่อว่าท่านรู้สึก ถถถ
ซึ่ง มรว.เสนีย์ ปราโมทย์ นี่แหละคือคีย์แมนคนสำคัญที่คนควรจดจำในศึกครั้งนี้
ถามว่าสำคัญระดับไหน ก็ประมาณกุยแกในศึกกัวต๋อแหละครับ
แต่คนดันพาไปจำใครก็ไม่รู้ ทั้งที่ระดับความเป็นคีย์แมนเทียบกันไม่ได้แต่เสือกเขียนซะเป็นพระเอกเลย
แม้อังกฤษจะร่างสนธิสัญญาโคตรเอาเปรียบ และจะยัดให้เราเป็นผู้แพ้ ซึ่งตอนนั้นไทยเสียเปรียบแทบทุกด้าน สัญญาฉบับนี้เอาเปรียบชนิดที่ว่า ถ้าจะทำขนาดนี้เอากูไปเป็นเมืองขึ้นเลยเหอะ
มรว.เสนีย์ จึงสวมวิญญานเด็กไทยหัวใจแครี่พลิกเกมส์ด้วยการปล่อยข่าวให้ไปถึงหูอเมริกา
อเมริกาพอได้ทราบเรื่องถึงกับตบเข่าฉาดดด
โธ่ๆไอ้อังกฤษคิดจะชุบมือเปิปหรอ เขตนี้มันถิ่นอั๊ว ให้มันรู้ซะบ้างว่าถิ่นใครเป็นถิ่นใคร ว่าแล้วนักเลงอเมริกันก็แสดงพาวเวอร์ จนอังกฤษพับโต๊ะเจรจาหนีกลับบ้านแทบไม่ทัน
ก่อนจะไปประกาศให้ชาวโลกรู้ถึงความพ่ายแพ้ของตัวเองด้วยการบัญญัติคำว่า Siamese Talk ขึ้นมา
แน่นอนว่าคำนี้ก็ไม่ฮิตเท่าที่ควร เพราะยิ่งพูดเดี๋ยวเค้าจะยิ่งรู้ว่าฝีมือระดับ อบต. แต่ฝีปากนี่ชิงแชมป์โลก เสมือนเด็กเกรียนแพ้เกมส์แล้วด่ากราดไปทั่ว Noob สัสๆ
แต่ก็ยังมีคนไทยบางจำพวกขุดคำนี้ขึ้นด่าชาติตัวเองประหนึ่งว่ามึงภูมิใจมาก ฟินสุดๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นคำพูดของไอ้พวกขี้แพ้ ซึ่งมันก็เหมาะกับไอ้พวกขี้แพ้แบบลิเบอร่านดีนะครับ
คนแพ้ก็ได้แต่เห่า ส่วนคนชนะก็นั่งฟังแบบเหนือๆ ถถถ
"กระต่ายที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า นายไม่คิดว่ากระต่ายตัวนั้นเจ๋งรึไง"
ฮายาชิดะ ชินจิโร่
#เฮียเกา
#####################################################
อาณาจักรไหนที่ชาติมหาอำนาจล่าอาณานิคมได้ยากสุดครับ?
[Link]
ยังยืนยันที่ "สยาม" ครับ
ประเทศที่ไม่ได้เป็นเกาะแบบญี่ปุ่น ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่และทหารนับล้านแบบจีน แต่มหาอำนาจกลับใช้กลเม็ดทุกอย่างที่เคยทำสำเร็จกับอาณานิคมอื่นๆมาแล้ว มาประเคนใส่สยาม แต่ผลคือ เอาสยามไม่ลง เริ่มจาก
ฝรั่งเศส
- ใช้ข้ออ้างเรื่องการกดขี่ศาสนาคริสต์และสังหารหมู่คณะบาทหลวง เข้ายึดตังเกี๋ย แต่ไม่สามารถใช้กับสยามได้ เพราะสยามให้เสรีภาพด้านศาสนามาตั้งแต่สมัยอยุธยา
- ใช้ข้ออ้างเรื่องรัฐบรรณาการ แบบที่ใช้ยึดสิบสองจุไทยหวังได้ลาวกับเขมรทั้งหมด แต่รัชกาลที่ 4 วางกลอุบายซ่อนลาว แล้วรีบขีดเขมรส่วนนอกให้ฝรั่งเศส ส่วนเขมรส่วนถือเป็นดินแดนสยาม กงสุลฝรั่งเศสรีบกระโดดรับทันที คิดว่าได้เปรียบแน่ๆ แต่ไปๆมาๆ กลับเป็นการรองรับสถานะรัฐบรรณาการของสยาม (ที่เดิม สยามไม่ได้ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของตน) ให้กลายเป็นดินแดนของสยามแบบไม่ตั้งใจ สื่อหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสด่ารัฐบาลโคชินไชน่าและกระทรวงอาณานิคมย่อยยับ
- เจอกดดันหนักๆเข้า รัฐบาลฝรั่งเศสจึงยอมหักดิบ สละมาดผู้ดี เอาเรือรบเข้าปากน้ำสยามและกำลังทางบกเข้ายึดที่มั่นข้าหลวงสยามในคำม่วน หวังให้สยามต่อสู้แบบที่เคยทำกับเวียดนาม แต่สยามกับนั่งเป็นเตมีย์ใบ้ ทางน้ำยิงพอหอมปากหอมคอ ทางบกกองทัพข้าหลวงที่อุบลและหนองคายไม่ยอมขยับ
- เรียกค่าปฏิกรรมสงครามแบบที่อังกฤษเคยเล่นงานพม่า เรียกเงิน 3 ล้านฟรังก์ (อังกฤษเรียกจากพม่าที่หนึ่งล้านปอนด์ รัฐบาลอังวะมีปัญญาจ่ายแค่สามสิบเปอร์เซ็น) ฝรั่งเศสคำนวนอยู่แล้วว่าสยามคงมีจ่ายอยู่หรอก เลยใช้กลอุบายบอกว่า เงินสามล้านที่ว่าขอเป็น "เงินกริ้งๆ" เอามาแต่เหรียญล้วนๆ ไม่รับธนบัตร หามาให้ได้ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงถ้าไม่ได้โดนเรือปืนยิงพระบรมมหาราชวัง ใครๆก็ฟันธงว่าสยามไม่รอด ในเอเชียตะวันออกใครจะมีเงินเหรียญถึง 3 ล้านฟรังก์ ถึงมีก็ไม่มีทางหามาได้ภายในเวลาแบบนั้น แต่...สยามมีจ่าย เงินเม็กซิกันเสียด้วย กริ้งๆเลย ทุกชาติงงเป็นไก่ตาแตก
- ได้ดินแดนลาวกับเขมรไป ซึ่งก็ได้แต่ดินจริงๆ ประชากรหายเกลี้ยง กะให้เป็นแหล่งปลูกข้าวแบบปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม แต่...ดินแดนที่ได้จากสยาม มีแต่ภูเขา แม่น้ำโขงก็มีแต่เกาะแก่ง เอาเรือกลไฟล่องได้แค่เวียงจันทน์กับสะหวันนะเขต เรือเมล์ขาดทุนทุกปี ภาษีจากอันนัมเอามาเสียกับลาวและเขมรเยอะมาก
- มีแผนการณ์ที่จะเพิ่มพื้นที่ภาคอีสานเข้ากับโคชินไชน่า แต่เจอแรงกดดันจากจักรวรรดิรัสเซีย และแรงสนับสนุนสยามของจักรวรรดิออสเตรีย-เยอรมัน หนำซ้ำสยามยัง "เล่นการเมืองเป็น" โดยการยิงทะลุใจกลางฝรั่งเศส คือ ล๊อบบี้เจ้าราชนิกูลของราชวงศ์บูร์บงที่กลับมามีอิทธิพลอย่างลับๆในรัฐบาลฝรั่งเศสภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3 ทำให้กระทรวงอาณานิคมฝรั่งเศสถึงกับอึ้งเลยทีเดียว แผนการณ์กลืนดินแดนสยามจึงหยุดชะงักแบบนั้น
อังกฤษ
- เจออิทธิฤทธิ์จากรัฐบาลสยามครั้งแรกตอนสนธิสัญญาเบอร์นี่ ในสมัย ร.3 รัฐบาลอังกฤษด่าราชทูตเฮนรี่ เบอร์นี่ ที่ส่งไปจากสิงคโปร์แบบหัวเสีย ไปทำสัญญาบ้าอะไรกับสยาม ถึงทำให้บริษัทอังกฤษต้องจ่ายภาษีให้สยามมากกว่าจ่ายให้จีนอีก แถมเรืออังกฤษเข้าเมืองท่าสยามจะมีสินค้าหรือไม่ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมปากเรือ แล้วยังต้องมาซื้อไม้สักจากพ่อค้าคนกลางคือรัฐบาลสยามอีก
- อังกฤษเตรียมแก้มือคืน โดยการแก้ไขสัญญาใหม่ และเตรียมนำเรือรบปิดปากอ่าวบีบให้ทำสัญญาแบบเดียวกับที่ทำกับจีน เป็นเชิงยั่วยุ มีหวังผลนิดๆว่าสยามจะฟิวขาดแบบพม่า แต่...เจอการทูตจากรัฐบาลสยามชุดใหม่ที่มาแบบงงๆ เกิดเป็นสนธิสัญญาเบาริ่งแบบงงๆ เช่นกัน
- ราชทูตอังกฤษที่เข้ามาสยามครั้งนั้น เซอร์จอห์น เบาริ่ง เจ้าเมืองฮ่องกง ผู้ที่เคยเล่นงานราชวงศ์ชิงจากการเป็นตัวตั้งตัวตีในสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 ที่อังกฤษหวังให้เล่นงานสยามบ้างจากสนธิสัญญาเบอร์นี่ หลังย้ายออกจากฮ่องกง อยู่ๆก็ได้เป็นรับการแต่งตั้งเป็น "พระยาสยามานุกูลกิจ" ตำแหน่งอัครทูตสยามประจำลอนดอนคนแรก....เอากับสยามสิ แต่งทูตอังกฤษสายเหยี่ยว มาเป็นทูตตัวเองประจำอังกฤษ หนามยอกเอาหนามบ่ง ใครจะคิดบ้างล่ะ
- อังกฤษวางแผนใหม่ ใช้แผนที่เคยทำกับราชสำนักชิง โดยการปล่อยกู้ให้สร้างทางรถไฟแก่สยามในสมัย ร.4 ผลก็คือ...อ๋อ ไม่เป็นไร เรากำลังมีโปรเจคของเราในเร็วๆนี้ ขอบคุณมากสำหรับข้อเสนอ
- พม่าเคยเป็นตัวตลกในราชสำนักอังกฤษ ด้วยพระราชสาส์นพระเจ้ามินดงถึงพระราชินีวิกตอเรีย เรียกพระนางว่า "พระน้องนางเรา" ทำให้จะเจรจาอะไรก็ติดขัดไปหมด พอมาถึงคราวสยาม นอกจากพระราชสาส์นจะเป็นแบบประเทศทั่วไปในภาคพื้นยุโรปแล้ว ยังมีจดหมายน้อยจากพระเจ้าแผ่นดินสยามมาถึง พระนางเจ้าผู้เป็นใหญ่แห่งทวีปบริเตนและไอร์แลนด์ ผู้เป็นสหายของเรา นี่คือแสดงถึงความเป็นประเทศศิวิไลซ์ของสยามถึงขีดสุดเลยทีเดียว
- อังกฤษเจอสยามใช้วิธีขีดมลายูออกเป็น 2 ส่วน แบบที่ทำกับเขมร ผลคือ อังกฤษรับรองสถานะดินแดนสยามเหนือปัตตานีและมลายูตอนเหนือ
- อังกฤษเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่ โดยใช้ไทใหญ่โมเดลในการพิชิตราชสำนักอังวะ พยายามจะสนับสนุนกลุ่มหัวเมืองล้านนาให้มาเป็นรัฐอารักขาแบบไทใหญ่ แต่เจอยุทธวิธีตั้งข้าหลวงต่างพระองค์ไปประจำการแบบรัฐบาลส่วนภูมิภาค เจ้าล้านนาขยับอะไรไม่ได้เลย
ปกติ ประเทศแถบนี้ จะใช้อังกฤษมาคานอำนาจฝรั่งเศส หรือใช้ฝรั่งเศสมาคานอำนาจอังกฤษ ซึ่งทั้งสองรู้กลยุทธ์นี้ดี และไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ประเทศเอเชียเด็ดขาด ผลก็คือ ทั้งสองประเทศแอบจับมือกันลับๆ ไม่ยอมตีกัน ซึ่งพม่าพิสูจน์มาแล้ว ที่ดันไปไว้ใจฝรั่งเศสในการคานอำนาจอังกฤษ ตอนอังกฤษจะยึดมัณฑเลย์ พม่าร้องหาฝรั่งเศสจนเฮือกสุดท้าย แต่พี่แกก็นั่งฉีกขนมปังมองดูเฉยๆ สำหรับสยาม......ล้ำกว่านั้นมาก รู้เช่นเห็นชาติสองมหาอำนาจนี้มานานแล้ว และสยามก็ยังรู้จักการเมืองในภาคพื้นยุโรปดีกว่าประเทศเอเชียอื่นๆ ด้วย คานอำนาจนั้นยังเป็นวิธีที่ดีแต่ต้องทำให้เป็น สยามจึงไปใช้มหาอำนาจที่เขาคานกันจริงๆกับฝรั่งเศสและอังกฤษ นั่นคือจักรวรรดิออสเตรีย-เยอรมันและจักรวรรดิรัสเซีย และไม่ได้ทำโดยการทูตธรรมดาๆ แต่พระเจ้าแผ่นดินสยามเข้ามาเล่นเกมส์นี้ด้วยพระองค์เองทีเดียว ให้ความสนิทสนมระหว่างพระราชวงศ์ต่อพระราชวงศ์ เรียกว่าแน่นแฟ้นมาก
ตอนนั้น สยามเป็นประเทศเดียวในเอเชียจริงๆ ที่เล่นเกมส์การเมืองแบบนี้ ฝรั่งเศสและอังกฤษ ก็ไปไม่เป็นอีกเช่นกัน
เรื่องที่บอกว่า สยามรอดมาได้เพราะดวงล้วนๆ ฝรั่งเศสและอังกฤษจะใช้สยามเป็นรัฐกันชน อันนี้คือคำแก้เกี้ยวครับ
แนวคิดเรื่องรัฐกันชนมีจริงครับ แต่เป็นแค่ดินแดนเล็กๆบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ทั้งสองประเทศจะเหลือไว้ให้สยาม
อังกฤษหมายปองไม้สักจากล้านนา พอๆกับฝรั่งเศสหมายปองภาคอีสานของสยามนั่งแหล่ะ
แต่...ได้แค่มองเท่านั้น
ก็คิดดูว่า ในหนังสือหรือตำราด้านการทูตระหว่างประเทศของโลกตะวันตก มีบรรจุคำว่า "Siamese Talk" ซึ่งหนึ่งในผลงานเรื่องที่ดังมากคือตอนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทีมทูตเราแถเรื่องที่ว่าเราอยู่ฝ่ายอักษะนั้นเป็นโมฆะ เพราะเรามีเสรีไทยที่ช่วยลับๆนะเออ
ในความหมายของฝรั่งตะวันตก มันเป็นคำเชิงดูถูกว่า คนไทยนี่มีการทูตแบบเหลี่ยมจัด เชื่อถือไม่ได้ เป็นพวกจิ้งจกเปลี่ยนสี เพราะกลิ้งกลอกได้ทุกเมื่อ
แต่สำหรับคนไทย และประเทศเล็กๆอย่างไทยที่ต้องรับมือชาติมหาอำนาจ นี่ถือว่าเป็นคำชมเลยครับ เพราะการต้องทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองอยู่รอดจากการเข้ามาปกครองของต่างชาติ ไม่มีคำว่าวิธีการเท่าไรนัก ใช้เล่ห์ได้แค่ไหนก็ต้องใช้ เพราะถ้ามามัวอิดออดโน่นนี่ เราก็อาจจะกลายเป็นแบบ จีน อินเดีย เวียดนาม ลาว และพม่า เอาง่ายๆเลย จีนนี่ถึงขนาดมีป้ายห้าม หมาและคนจีนเข้า ส่วนพม่านี่อังกฤษมาวางระเบิดเรื่องชนเผ่าไว้อีก
ถ้านอกจากประเทศไทยเรา ผมให้ญี่ปุ่น โดยเฉพาะตอนเปิดประเทศและเริ่มสร้างจักรวรรดิญี่ปุ่นครับ ส่วนจีนนี่มารับมือมหาอำนาจตะวันตกได้จริงๆคือตอนหลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์กุมอำนาจแล้ว ก่อนหน้านี้โดนแปดชาติตะวันตกรุมทึ้ง
ส่วนเรื่องที่รัชกาลที่ 3 ทรงชอบค้าขายนี่ แล้วนำไปสู่เงินถุงแดงนี่ ตอนแรกคงไม่มีใครคาดคิดว่า จะมีส่วนช่วยบ้านเมืองในภายหลังได้ขนาดนั้น และกุศโลบายขององค์รัชกาลที่ 4-5 ในเวลาต่อมาก็ทรงทำได้ชาญฉลาดยิ่ง
เสริมภาพฉบับเต็มที่ลงในหนังสือพิมพ์ของยุโรป แล้วดังไปทั่วโลก
ภาพถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่นั่งเสมอกัน ภาพนี้แหละคือหมัดเด็ดเลยครับ โด่งดังทั่วยุโรป แล้วจังหวะของพระองค์ดีมาก ที่ทรงไปรัสเซียก่อนหน้าที่ราชวงศ์โรมานอฟจะล่มสลายในเวลาต่อมา
และปล.อีกครั้ง ผมกำลังจะสอบนักการทูต วุฒิป.โท ขอเอาฤกษ์เอาชัยด้วยภาพพระบรมฉายาลักษณ์ขององค์รัชกาลที่ 5 ครับ และถ้าได้ตำแหน่งมา จะขอปฏิญาณตนว่าจะใช้ความสามารถที่มีและที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อบ้านเมืองอย่างเต็มที่ครับ
Like
: Chengy, nueng93, dokushin00, superKman
View all 1 comments >
Thu 28 Sep 2017 : 12:29AM
Chengy
member
Since 8/3/2010
(1772 post)
ไอ้ที่อยู่ในสปอย อ่านแล้วโคดมัน พวกล่าเมืองขึ้นสมัยก่อน มันคงนอนตายตาไม่หลับ
ถึงกับบัญญัติคำขึ้นมาด่าโดยเฉพาะ สงสัยจะเจ็บแค้น Siamese Talk จนวันตาย
GGWP
Reply
Vote
Related Thread
[ไม่ใช่การเมืองไทย] กระทู้ 'การเมือง/ความมั่นคง/เศรษฐกิจ/' ระหว่างประเทศ
Popular Thread
ประกาศ Danmachi ss5
Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name คะแนนรีวิว
ยังอยากหากินกับบุญเก่าเหมือนเดิม Blizzard เผย มีความคิดจะนำ World of Warcraft ลงเครื่องเกมคอนโซล
KOF XV DLC|HINAKO SHIJO|Trailer
7 online users
Logged In :
member
Since 19/8/2008
(10420 post)