Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
This thread is locked
สนทนาประสาการเมือง ��าค VII

Reply
Vote
# Fri 19 Jan 2018 : 9:05AM

Godzeus
member
หม้อดีตีแล้วฟิน
Since 2012-12-04 21:26:30
(4644 post)
จะบอกมุมมองของคนที่ใกล้ชิดชนชั้นแรงงานรับค่าแรงขั้นต่ำให้ฟังนะครับ

ค่าจ้างเท่าไหร่ก็ไม่พอแดรกหรอกครับ ให้500,1,000/วันก็ยังไม่พอแดรก เพราะพฤติกรรมเผาเงินพวกนี้เกินเยียวยา

เติมเงินโทรศัพท์แบบน้อยๆ 10+2,20+2 ,50+3 ,100 ไม่บวก คนที่คิดเป็นหน่อยจะเติม 100 แต่คนแถวผมเติมทีละ 10-20 เยอะมาก ทำอะไรโดนบวก 10-20% เขาไม่ได้คิด

ซื้อของก็เลือกหน่วยเล็กสุดแพงสุด สบู่,ยาสีฟัน,ยาสระผม 20-บาทจะเป็นของขายดีสุด เมื่อก่อนถ้ามียาสระผมแบบซอง 2-3บ. คือจะขายดีมาก

เหล้า,บุหรี่มันมีหน่วยเป็นซองเป็นขวด ก็ยังจะให้เขาย่อยเป็นมวน ,เป็นกั้ก ตย. บุหรี่ SMS ซองละ 60แต่พอแบ่งมวนคิดมวนละ 4 ซองนึงยี่สิบมวน

ขายซอง 60: ขายมวน 80 กำไรเพิ่มขึ้น 20 บาท
20/60 *100= กำไรเพิ่ม 33%

เหล้ากั้ก เหล้าขาว 100 /ขวด แบ่งกั้กสี่ขวด 30/กั้ก
ได้ 120บาท
ขายขวด 100: ขายกั้ก 120 กำไร 20
20/100 *100 =กำไรเพิ่ม 20%

แล้วของบางอย่างก็ซื้อแพงแบบไม่ควรชอบมากในการเอาเครดิตไปซื้อแล้วผ่อนขั้นต่ำ แต่ไม่เคยถามว่าถ้าจ่ายแต่ขั้นต่ำ กว่าจะหมดหนี้ต้องจ่ายกี่เดือน/รวมเป็นเงินเท่าไหร่ ,คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของเงินต้น

ทำนองเดียวกับพวกเห็นแต่ประโยชน์ตรงหน้า แต่ลืมว่าต้องลำบากทีหลัง ใช้เงินเหมือนคนอ้วนที่บอกกินก่อนเบิร์นทีหลังนั่นแหล่ะ


เดี๋ยวมาเติมให้ต่อ

คร่าวๆคือ คิดประหยัดไม่เป็น ชอบเรื่องให้โดนดอกเบี้ย บวกค่าบริการ ชอบเป็นกลุ่มที่จะเสียเปรียบในเรื่องการเงินทุกครั้ง

สมมุติว่าเป็นเกมส์โชว์ให้คนเดินไปอยู่ในโซน A:B คนกินค่าแรงขั้นต่ำจะเดินไปโซนเสียเปรียบตลอด

ลูกหนี้: เจ้าหนี้
คนใช้บริการ: คนให้บริการ
คนพนัน: เจ้ามือ
คนโดนหลอก:คนหลอก
คนซื้อน้อยๆแต่แพง:คนซื้อเยอะเวลาลดราคา
คนใช้อารมณ์:คนใช้เหตุผล
คนที่คิดว่าเดิมๆก็ดีแล้ว:คนที่พัฒนาตัวเองตลอด

อีแบบนี้ให้ได้ค่าแรงวันละพัน มันก็ยังบ่นว่าไม่พอกินอยู่ดี

-----ถ้าคิดถึงอนาคตลูกหลานจริงๆ คงต้องปฏิรูปการศึกษาให้ ลูกหลานมันอยู่เป็น ใช้เงินเป็นก่อน แล้วค่อยว่ากันเรื่องอื่นๆ แต่จากคิดเห็นมา 20-30 ปีผมว่าแนวโน้มคนรุ่นใหม่แย่กว่ารุ่นเก่าเยอะครับ คนรุ่นเก่าถ้าเขาไม่เข้าใจเขาจะไม่แตะ แต่คนรุ่นใหม่ชอบเฮตามกันไป พอสุดทางคือโดนเขาหลอกก็ยังไม่รู้ตัว

ตลกมันเล่นกันว่า คนสอน"ลำบากวันนี้สบายวันหน้า " แต่อีกคนตอบ "ผมไม่รู้วันหน้าหรอก แต่ถ้าผมขี้เกียจวันนี้ ผมสบายวันนี้"
[Edited 3 times Godzeus - Last Edit 2018-01-19 11:08:03]
View all 13 comments >
Fri 19 Jan 2018 : 10:52AM

Bergkamp
member

Since 26/5/2006
(12602 post)
จริงมาก

คนพวกนี้แม่งมีแนวคิดแปลกๆ คือ มีเครดิตต้องใช้ ไม่งั้นถือว่านอนหลับทับสิทธิ์

มีเครดิตจะกู้ก็ไปกู้โดยไม่ได้มีโครงการว่าจะทำอะไร กู้มาใช้เล่นๆ ผ่อนขั้นต่ำไป

พี่ที่ Office คนนึงทำแบบนี้จนหมุนไม่ทัน หนี้เน่าจนติด NCB เกือบโดนแบงค์ฟ้องร้องดำเนินคดี

ต้องไปขับมอไซรับจ้างตอนเช้าหารายได้เสริมมาจ่ายหนี้ เงินเดือนออกแต่ละเดือนโดนหักแทบเกลี้ยง

ดิ้นรนจนจ่ายหมด หลุด NCB ทำบัตรเครดิตได้ เฮียแกก็จัดทันที ได้วงเงินมา 30000

บัตรมาส่งปุ๊ป ตอนเย็นพาพรรคพวกไปเลี้ยงฉลองหลุดบูโร วงเงิน 30000 เต็มในวันเดียว ตอนนี้จ่ายขั้นต่ำอยู่

เห็นแววจะวนมาลูปเดิมกลายๆละ

Fri 19 Jan 2018 : 11:02AM

marcust
member

Since 22/9/2008
(9836 post)
พวกนี้เค้าจะคิดสั้นๆ หน่อยครับ

Fri 19 Jan 2018 : 11:39AM

dukedick
member
หนอย... เป็นแค่ dukedick แท้ๆ!!
Since 9/2/2006
(1445 post)
ไม่น่าจะถึงขั้นปฏิรูปการศึกษานะครับ เรื่องวินัยการใช้เงินมันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและการเลี้ยงดูในครอบครัวมากกว่าจะให้สอนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
แค่ทำเป็นแคมเปญโฆษณาแสดงตัวอย่างว่าใช้เงินโง่ๆแล้วชีวิตจะจบเห่ยังไงคิดเพลงประกอบมุขตลกๆให้เป็นไวรัลได้ก็น่าจะพอแล้ว

Fri 19 Jan 2018 : 1:48PM

Ramza
member
บีบตูดชายแล้วร้องซี๊ด
Since 17/9/2007
(18902 post)
ลูกน้องผมมีกี่คนๆ เป็นแบบนี้หมดสอนจนขี้เกียจสอนและ

สอนมากก็มีปัญหาอีก เมื่อก่อนมีปัญหาเรื่องเบิกเงินเยอะมาก ทุกวันนี้จำกัดเบิกได้เดือนล่ะครับ ครั้งนึงไม่เกินค่าแรง=จำนวนที่มาทำงาน

Fri 19 Jan 2018 : 3:12PM

tarna
member

Since 2013-06-03 01:08:10
(1997 post)
ร้องให้หนักมาก แม่ตัวเองเป็นแบบนั้นเลย บอกยังไงๆแกก็ไม่เปลี่ยน รถเอาไปเข้าไฟแนซ์ แสนสอง ได้เงิน สดแปดหมื่น
แต่ต้องใช้หนี้ แสนสอง+ดอกเบี้ย สรุป เกือบสองแสน แต่ได้เงินสดแค่แปดหมื่น ส่งหมดเอาเข้าใหม่ คนจ่ายก็ผมเองนี้แหละ รถมอไซด เข้าไปได้ หมื่นสอง แต่ได้เงินสดแค่แปดพันแกก็เอา บอกเอามาหมุ่นก่อน แล้วเราก็ส่งอีกให้อีก เกือบสองหมื่น พอเงินไม่พอส่ง ก็ไปกู้ร้อยละสิบยี่สิบมาผ่อนไฟแนซ์ไปก่อน ส่วนตัวผมเองไม่หนี้อะไรเลยแต่เงินแทบไม่พอใช้แตะละเดือนเพราะต้องมาตามจ่ายดอกที่ไม่มีวันหมดพวกนี้ บอกยังไงๆก็ไม่ฟังพอเราพูดเยอะก็โมโห ไม่รู้จะทำไงแล้ว ไม่เอาลูกเอาเมียก็เพราะแบบนี้แหละ

Fri 19 Jan 2018 : 3:31PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
บางคนซื้อข้าวแกงกินประหยัดที่สุด บางคนอยู่เป็นครอบครัวทำกับข้าวกินเองคุ้มกว่าซื้อกับข้าวเป็นถุง เพราะฉะนั้นหน่วยย่อย/แบ่งขาย มันไม่ได้หมายความทุกคนจะเสียเปรียบ

บุหรี่ เข้าใจว่าปรับราคาเท่ากัน เช่นกลุ่มราคา 60 บาท กลุ่ม 90 บาท ถ้าเสียเปรียบคือพวกซองอ่อนมวนเล็กๆมากกว่า อย่างกรองทิพย์ซองอ่อนเดิมมันประมาณ 60 กว่า ตอนนี้ขึ้นเป็น 90 เท่าซองหนามวนใหญ่ 90 บาทเท่ากัน กรองทิพย์เหมือนกัน ถ้าซื้อซองใหญ่มันได้ปริมาณเยอะกว่าเห็นๆ

ผมมองว่าทำงานรายวัน เติมเงินทีละ 10 บาทเป็นเรื่องปกตินะ คนงานบ้านผมหลายคนรวยนะ ทุกคนได้รายวันหมด ยกเว้นพวกเซลล์ คนงานที่มาดูแลสวนให้ เมียมันก็เป็นแม่บ้านทำงานบ้านผม รายวันทั้งคู่ แต่แม่งรวยนะ สร้างบ้านหลังใหม่สองล้าน มีปิ๊กอัพ บ้านมีวัวร้อยตัว

แต่ผมมองว่าพวกชั้นกลาง กินสตาร์บั๊ค แดกไวน์ ใช้ไอโฟน เอาเงินไปซื้อตั๋วดูเกาหลี อันนี้ดูโง่ ฟุ่มเฟือยกว่านะ แต่ตัดเรื่องการใช้เงิน (ที่เป็นสิทธิส่วนตัว) ก็ถือว่าช่วยเรื่องการใช้จ่าย ทำให้เงินหมุนเวียน (ไหลออกซะส่วนใหญ่)

Sat 20 Jan 2018 : 7:11AM

Sukoy
member

Since 24/6/2005
(15468 post)
อยากให้ไปดู Marshmallow Test ใน youtube

ความสามารถในการควบคุมตัวเอง อดเปรี้ยวไว้กินหวาน (delayed gratification) เป็นคุณสมบัติที่คนจนไม่มี และคนที่รวยเอง มีทุกคน

Sat 20 Jan 2018 : 7:45AM

Godzeus
member
หม้อดีตีแล้วฟิน
Since 2012-12-04 21:26:30
(4644 post)
ที่จริงเรื่องมาชเมลโลเทส มันเอามาพูดเพราะการตื่นตัวเรื่อง E.Q.

เรื่องเงินมันต้องคำนึงถึง.
1.การจ่าย (คุ้มค่า,อดเปรี้ยวกินหวาน ฯลฯ)

2.รายรับ. ซึ่งควรจะมีเรื่องที่คอยหาทางใหม่ๆ. (แบบในเรื่องชีสก้อนที่สอง).


ที่จริงชีวิตมันต้องสมดุล รายรับ-รายจ่าย. คนจะรวยก็ไม่ใช่แค่คุมรายจ่าย งก ,ประหยัด,เขียม. นะครับเขาต้องหาเงินได้ถูกทาง ลงทุนถูกทางด้วย

เรื่องใช้เงินให้เป็นต้องถกกันยาวเลย แต่เมนต์นี้อยากให้โฟกัสเรื่องใช้เงินก่อน. ส่วนเรื่องหาเงิน,เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังอีกเมนต์ดีกว่า
[Edited 1 times Godzeus - Last Edit 2018-01-20 08:02:37]

Sat 20 Jan 2018 : 8:13AM

Sukoy
member

Since 24/6/2005
(15468 post)
ทั้งราบรับและรายจ่าย การควบคุมตัวเองเกี่ยวทั้งนั้น

แต่เรื่องรายรับ การเพิ่มรายรับที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการลงทุน ถ้าไม่มีเงินเหลือมันจะมีงินลงทุนไหม แต่เรื่องสำคัญกว่าในเรื่องรายรับอาจจะเป็นเรื่องความสามารถ กื๋น และต้องยอมรับว่าทุนเดิมๆ (รวมทั้งโอกาส) ที่พ่อแม่ให้มันก็สำคัญมากๆ

มองรอบตัวผมเห็นคนที่หาเงินเก่งบางคน ก็ยังใช้เงินเก่งกว่าที่หา ซึ่งมันก็จะทำให้ชีวิตทั้งส่วนตัวและครอบครัวมีความเสี่ยง ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องไปลุ้นขนาดนั้นถ้าอดใจได้สักหน่อย

คนไทยความรู้ด้านการเงินส่วนบุคคล และเศรษฐศาสตร์ต่ำมากๆ แต่อย่างว่าครูๆ ส่วนใหญ่ยังเอาตัวไม่รอด จะมาสอนใครได้ 555

Sat 20 Jan 2018 : 8:22AM

Godzeus
member
หม้อดีตีแล้วฟิน
Since 2012-12-04 21:26:30
(4644 post)
ก็ขนาดทรนินยังให้ความเห็นว่า

เติมทีละ 10+2. เป็นเรื่องธรรมดา +ไม่รวยเพราะเงินสองบาทนี้.
ผมเลยลังเลที่จะพูดแล้วว่าต้องประหยัดก่อนลงทุนเลยครับ. บางทีที่ผมใช้ชีวิตมาสามสิบปีแบบประหยัด(ไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียม)มันมีค่าน้อยสำหรับบางคน

สรุปเรื่อง 10+2 นี่เรื่องใหญ่ในสายตาคนอื่นไหมครับ

Sat 20 Jan 2018 : 11:44AM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
เอาความเป็นจริงสิครับ เอาแบบที่เป็นไปได้ และย้ำนะ เราพูดกันถึง ลูกจ้างรายวันที่มีรายได้ขั้นต่ำ 300 บาท นะครับ

คนชั้นกลาง คนรวย มันก็อีกสูตรนึงนะ แต่สำหรับคนที่มีต้นทุนแค่นี้ วันละ 300 (ตีว่าเริ่มต้นจาก 0 ไม่มีอะไรเลย ต้องไปเช่าบ้าน ต้องเสียค่ารถ ฯลฯ) ผมกลับมองว่าการที่มันสามารถบริหารการเงินของมัน ถึงจะแบบวันต่อวัน มันก็ดีมากแล้ว ที่สำคัญคือมันไม่เป้น NPL ไม่มีหนี้สินเกินตัว

คุณมองว่า พวกค่าแรง 300 บาท ซื้อแชมพูแบบขวด 20 บาท =โง่ แต่ผมมองว่ามันอยู่ที่การเลือกบริหารให้เหมาะสมกับตัวเองเหมือนเลือกประเภทประกัน ประเภทบัญชีเงินฝาก จะเอาฝากแบบไหน ดอกบบไหน จะกู้แบบไหน จะเลือกผ่อนแบบไหน ซื้อแชมพูขวดใหญ่ราคาแพงไปเลย อาจจะเป็นภาระ หรืออาจจะต้องทำให้เป็นหนี้สำหรับคนกลุ่มนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้นจะตีว่าซื้อของแบบหน่วยเล็ก=โง่ มันไม่ถูกเสมอไปนะครับ


Sat 20 Jan 2018 : 12:35PM

Godzeus
member
หม้อดีตีแล้วฟิน
Since 2012-12-04 21:26:30
(4644 post)
ทรนินต้องทำความเข้าใจเรื่อง เซต,ซับเซตใหม่ทั้งบทนะครับ

คือคนทั่วไปเขาเข้าใจว่ามีความยืดหยุ่นในประโยคแบบนี้อยู่นะครับ. ถ้าผมบอก
เรื่อง 10+2 ไม่ดีแบบมากๆ.
แต่ไอ้ซื้อของย่อยบางอย่างอาจจะกลางๆ.
แต่แบบแบ่งบุหรี่ย่อยเป็นมวน, ขวดแบ่งสี่. ผมก็แจงแล้วว่าราคามันแพงขึ้นไป20-33%. นี่เข้าขั้นเลวร้ายเลยนะครับ

ถ้าใครคิดว่าทำแบบนั้นทำย่อยๆให้โดนคนอื่นเขากินส่วนต่าง ค่าธรรมเนียมที่ว่าดีกับเขา ผมก็ว่าดีครับ คุณยอมรับที่จ่ายเองWin ฝั่งบริการเขาก็ได้ค่าบริการ+ราคาไปเขาก็Win. win-win ทั้งคู่มันต้องดีสิ่ครับ
[Edited 1 times Godzeus - Last Edit 2018-01-20 12:35:44]

Sat 20 Jan 2018 : 12:59PM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)
คุณพูดถึง ลูกจ้างรายวันที่มีรายได้ขั้นต่ำ 300 บาท นะครับ คุณบอก

พวกนี้พฤติกรรมเผาเงินพวกนี้เกินเยียวยา

เติมเงินโทรศัพท์แบบน้อยๆ 10+2,20+2 ,50+3 ,100 ไม่บวก คนที่คิดเป็นหน่อยจะเติม 100 แต่คนแถวผมเติมทีละ 10-20 เยอะมาก ทำอะไรโดนบวก 10-20% เขาไม่ได้คิด

ซื้อของก็เลือกหน่วยเล็กสุดแพงสุด สบู่,ยาสีฟัน,ยาสระผม 20-บาทจะเป็นของขายดีสุด เมื่อก่อนถ้ามียาสระผมแบบซอง 2-3บ. คือจะขายดีมาก

เหล้า,บุหรี่มันมีหน่วยเป็นซองเป็นขวด ก็ยังจะให้เขาย่อยเป็นมวน ,เป็นกั้ก ตย. บุหรี่ SMS ซองละ 60แต่พอแบ่งมวนคิดมวนละ 4 ซองนึงยี่สิบมวน

ขายซอง 60: ขายมวน 80 กำไรเพิ่มขึ้น 20 บาท
20/60 *100= กำไรเพิ่ม 33%

เหล้ากั้ก เหล้าขาว 100 /ขวด แบ่งกั้กสี่ขวด 30/กั้ก
ได้ 120บาท
ขายขวด 100: ขายกั้ก 120 กำไร 20
20/100 *100 =กำไรเพิ่ม 20%

แล้วของบางอย่างก็ซื้อแพงแบบไม่ควรชอบมากในการเอาเครดิตไปซื้อแล้วผ่อนขั้นต่ำ แต่ไม่เคยถามว่าถ้าจ่ายแต่ขั้นต่ำ กว่าจะหมดหนี้ต้องจ่ายกี่เดือน/รวมเป็นเงินเท่าไหร่ ,คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของเงินต้น


เพราะฉะนั้นผมก็พูดถึง ลูกจ้างรายวันที่มีรายได้ขั้นต่ำ 300 บาท เข้าใจโจทย์ก่อนนะครับ

ทีนี้ต้องมองว่าต้นทุนของเขามีแค่นี้ (ผมเคยผ่านมาแล้ว) มันก็ทำได้แค่นั้น

อย่างเรื่องผ่อนของคุณบอกพวกนี้โง่ ไม่คิดว่าผ่อนยาวจ่ายขั้นต่ำรวมทั้งหมดจะจ่ายเท่าไหร่ อันนี้ผมบอกเลยเท่าที่ผมสัมผัสมา ทุกคนคำนวณเงินที่ต้องจ่ายทั้งหมดกันทั้งนั้นเลยครับ แต่เขาเลือกรูปแบบการผ่อนจ่ายตามแบบที่เขาทำได้

ย้ำนะครับ ผมย้ำเลย การบริหารรายรับรายจ่าย โดยไม่เป็นภาระกับตัวเอง แบบที่ตัวเองสามารถทำได้ ไม่เป็น NPL ไม่มีหนี้สินเกินตัว ผมว่ามันก็ดีมากๆแล้ว

และต้องคิดถึงค่าเสียโอกาสด้วยนะครับ เงินมีจำนวนเท่านี้ 300 บาท ทำไมไม่ซื้อบุหรี่เป็นซอง ซองละ 60-90 บาท การที่ซื้อบุหรี่แบบแบ่ง (เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้วนะครับ ถ้ายังขายอยู่ควรเลิกซะ) มันก็จะทำให้มีเงินไปใช้อย่างอื่นด้วยไงครับ อาจจะเก็บสะสม อาจจะเอาไปซื้อกับข้าว ฯลฯ ถ้าซื้อตูมเดียว 90 บาท 1./มันอาจจะไม่พอสิครับ เงินมีเท่านี้ จะสูบบุหรี่ก็เลยต้องซื้อแบบแบ่งย่อย 2./อาจจะเสียโอกาสในการเอาเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น

คือมองจากบนภูแล้วดูถูกคนอื่นมันคิดเหมือนง่ายสิครับ แต่เอาแบบความเป็นจริง ที่ทุกคน คนทั่วๆไปทำได้จริงๆมันอาจจะเป็นอีกแบบ คนที่รายได้วันละ 300 บาท จะไปซื้อของทีละมากหรือซื้อของแบบแพ็คใหญ่เพื่อให้ได้ราคาถูก แบบคนที่มีรายได้สูงทำกัน บางทีคนที่ได้รายได้ขั้นต่ำเขาก็ทำไม่ได่้นะ มันต้องดูภาระรวมๆ ดูการบริหารการเงินส่วนบุคคลในภาพรวมด้วยครับ

ย้ำอันนี้พูดถึงเรื่องที่คุณว่า พวกค่าแรงขั้นต่ำ ซื้อของแบ่งซื้อ=โง่ นะ


Reply
Vote




5 online users
Logged In :