Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
This thread is locked
สนทนาประสาการเมือง ��าค VII

Reply
Vote
# Mon 14 Jan 2019 : 10:40AM

baezae
member

Since 22/3/2006
(14327 post)
ฝุ่นละอองใน กทม วิกฤต มาก ออกมาข้างนอกนี่แสบคอเลย ช่วงนี้ต้องงดวิ่งข้างนอกไปก่อน

รัฐบาลควรจะหามาตราการควบคุมมลพิษได้แล้วนะ คนด่ากันเปิง แต่อย่างว่าใกล้เลือกตั้ง

เอาไว ๆ ก็รณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันเปิดพัดลม เพื่อพัดฝุ่นละอองไป ผมว่าก็ไม่เลวนะ 55555

View all 9 comments >
Mon 14 Jan 2019 : 10:58AM

Pompoko
member
peekapoo
Since 15/2/2009
(15368 post)
ไปอ่านคอมเม้นตามเพจ ที่ ผู้ว่าเสนอให้ใช้ รถสาธารณะให้มากขึ้น
ปรากฎโดนด่ายับ 55555

ผมว่าแก้ลำบากครับ ต่อให้10แม้ว ร้อยลุงตู่ แต่คนส่วนใหญ่ไม่พร้อมที่จะเสียสละ ให้ส่วนรวมมากขึ้น
สมมุติออกมาตรการจำกัดรถเข้ามาใน กทม ชั้นในหรือ ทะเบียนวันคู่ คี่ วิ่งได้ เดียวก็การ์ดรังแกคนจนโผล่อีก รับกรรมกันไปทั้งพวงละกัน5555

Mon 14 Jan 2019 : 11:09AM

npanda
member
ชอบนม #2
Since 4/5/2007
(4809 post)
เรื่องบริการสาธารณะนี่ผมว่าเคสนี้มันต้องแบ่งเป็นสองส่วนครับ คนบางคนมันติดหรู ติดสบายเลยไม่ยอมเสียสละกัน แต่อีกส่วนนึงที่ผมว่าเถียงไม่ได้คือ รถสาธารณะเรามันก็ "เฮงซวย" ครับ จากใจคนที่โหนสองแถว ต่อ BTS นั่งมอไซด์ โบกแท็กซี่ ขึ้นรถเมล์ แทบจะใช้ทุกบริการแล้วอย่างผมบอกเลยว่าต้องปรับปรุงมาก ๆ ครับ ถึงจะเพียงพอให้จะด่าคนไม่ยอมเสียสละได้เต็มปากเต็มคำ ต้องเริ่มกันทั้งคู่ทั้งรัฐ ทั้งประชาชน ถ้าพลักภาระให้ประชาชนยอมลำบากเพื่อความเฮงซวยของรัฐผมก็ไม่โอเคนะ

ถ้าบริการได้ครบคลุมและมีมาตราฐานซัก 50% ของญี่ปุ่นนี่ จะจำกัดบีบ บังคับ กดกันรถส่วนตัวอะไรก็ตามสบาย ดีไม่ดีคนอาจจะแทบไม่ค่อยใช้รถส่วนตัวกันเลยก็ได้นะ ถ้าได้ระดับนั่นน่ะนะ


Mon 14 Jan 2019 : 11:20AM

Pompoko
member
peekapoo
Since 15/2/2009
(15368 post)
ถ้าจะเริ่มใช้ รถสาธารณะจริงๆต้องทำใจเรื่องหนึ่งเลยคือต้องเดินครับ ยอมรับให้ได้ว่าอาจจะต้องเดิน1-2โล เพื่อไปใช้บริการ คนไทยจะทำใจกับเรื่องนี้ได้เปล่า จากอากาศที่ร้อน ฟุตบาทที่แคบ แต่เรื่องฟุตบาทคิดว่าถ้าคนเดินกันเยอะขึ้นกว่าเดิมคงจะมีการปรับปรุงตาม

Mon 14 Jan 2019 : 12:00PM

Kevin4real
member

Since 2018-12-10 14:34:55
(2725 post)
สมัยก่อนก็มีมาตรการจัดการรถเก่า ผลก็คือโดนด่า ประเทศนี้พอรัฐบาลเอาจริงก็ด่าเขา แต่มีเรื่องก็ด่าอีกนั่นแหละ
[Edited 1 times Kevin4real - Last Edit 2019-01-14 12:14:01]

Mon 14 Jan 2019 : 6:10PM

Amail
member

Since 8/10/2007
(1212 post)
ก็คงแก้ปัญหาด้วยการ "รอ" ให้ลมมาไล่ฝุ่นเหมือนเดิมแหละครับ
การแก้ปัญหาแบบยั่งยืนมันเป็นไปไม่ได้หรอก
ปัจจัยสร้างปัญหามันเยอะ แล้ววิธีแก้ล้วนแต่กระทบวิถีการดำเนินชีวิตแบบสะดวกสบายของชาวกทม.
ใครมันอยากจะไปเสียสละ
[Edited 1 times Amail - Last Edit 2019-01-15 07:39:40]

Mon 14 Jan 2019 : 9:32PM

Nekokung
member
แมวดุ้น
Since 2013-09-14 16:42:21
(6402 post)
npanda wrote:
เรื่องบริการสาธารณะนี่ผมว่าเคสนี้มันต้องแบ่งเป็นสองส่วนครับ คนบางคนมันติดหรู ติดสบายเลยไม่ยอมเสียสละกัน แต่อีกส่วนนึงที่ผมว่าเถียงไม่ได้คือ รถสาธารณะเรามันก็ "เฮงซวย" ครับ จากใจคนที่โหนสองแถว ต่อ BTS นั่งมอไซด์ โบกแท็กซี่ ขึ้นรถเมล์ แทบจะใช้ทุกบริการแล้วอย่างผมบอกเลยว่าต้องปรับปรุงมาก ๆ ครับ ถึงจะเพียงพอให้จะด่าคนไม่ยอมเสียสละได้เต็มปากเต็มคำ ต้องเริ่มกันทั้งคู่ทั้งรัฐ ทั้งประชาชน ถ้าพลักภาระให้ประชาชนยอมลำบากเพื่อความเฮงซวยของรัฐผมก็ไม่โอเคนะ

ถ้าบริการได้ครบคลุมและมีมาตราฐานซัก 50% ของญี่ปุ่นนี่ จะจำกัดบีบ บังคับ กดกันรถส่วนตัวอะไรก็ตามสบาย ดีไม่ดีคนอาจจะแทบไม่ค่อยใช้รถส่วนตัวกันเลยก็ได้นะ ถ้าได้ระดับนั่นน่ะนะ



อยากให้ต่างชาติ ชาติที่เจริญแล้วอย่างอเมริกา ญี่ปุ่นมาสัมปทานเรื่องรถสาธารณะมากๆ

ผูกขาดไปเลยก็ได้ ให้คนไทยได้สัมปทาน 20 ปีมานี้ไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นเลย

ที่พัฒนาขึ้นมีแต่ค่าบริการ




Mon 14 Jan 2019 : 10:27PM

npanda
member
ชอบนม #2
Since 4/5/2007
(4809 post)
Nekokung wrote:



อยากให้ต่างชาติ ชาติที่เจริญแล้วอย่างอเมริกา ญี่ปุ่นมาสัมปทานเรื่องรถสาธารณะมากๆ

ผูกขาดไปเลยก็ได้ ให้คนไทยได้สัมปทาน 20 ปีมานี้ไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นเลย

ที่พัฒนาขึ้นมีแต่ค่าบริการ





ถ้าพูดถึง BT* ล่ะก็ อันนี้ผมก็งงนะว่าพวกพี่แกเคยไปดูงานที่ญี่ปุ่นจริงรึไปเที่ยวหว่า เพราะที่ไปมานี่รถไฟญี่ปุ่นกับไทยนี่ต่างกันมากเลยนะ ไล่ตั้งแต่ที่โน่นจอโฆษณาใบ้นะไม่ดังเหมือนที่นี่ จะดังแค่ตอนประกาศและบอกว่าสถานีไหนซึ่งละเอียดมากบอกกันตั้งแต่สถานีต่อไปอะไร ถัดไปอะไร จอก็ดิจิทัลบอกด้วยว่าตอนนี้อยู่ไหนหลับ ใส่หูฟังก็ไม่น่าจะหลง เรื่องความตรงเวลาไม่ตรงพูดถึงตรงจนน่ากลัว ถ้าเทียบกับบ้านเราเวลาบอกไม่ได้ แถมวิ่งอยู่ดี ๆ ก็จัดการจราจร ที่ฮาสุดคือไปโน่น 6
วันไม่เจอเสียรึดีเลย์แต่มือถือนี่ต่อโรมมิ่งมีแต่ข้อความเตือน BT* เสียเกือบทุกวัน

Tue 15 Jan 2019 : 12:52AM

Nekokung
member
แมวดุ้น
Since 2013-09-14 16:42:21
(6402 post)
npanda wrote:
Nekokung wrote:



อยากให้ต่างชาติ ชาติที่เจริญแล้วอย่างอเมริกา ญี่ปุ่นมาสัมปทานเรื่องรถสาธารณะมากๆ

ผูกขาดไปเลยก็ได้ ให้คนไทยได้สัมปทาน 20 ปีมานี้ไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นเลย

ที่พัฒนาขึ้นมีแต่ค่าบริการ





ถ้าพูดถึง BT* ล่ะก็ อันนี้ผมก็งงนะว่าพวกพี่แกเคยไปดูงานที่ญี่ปุ่นจริงรึไปเที่ยวหว่า เพราะที่ไปมานี่รถไฟญี่ปุ่นกับไทยนี่ต่างกันมากเลยนะ ไล่ตั้งแต่ที่โน่นจอโฆษณาใบ้นะไม่ดังเหมือนที่นี่ จะดังแค่ตอนประกาศและบอกว่าสถานีไหนซึ่งละเอียดมากบอกกันตั้งแต่สถานีต่อไปอะไร ถัดไปอะไร จอก็ดิจิทัลบอกด้วยว่าตอนนี้อยู่ไหนหลับ ใส่หูฟังก็ไม่น่าจะหลง เรื่องความตรงเวลาไม่ตรงพูดถึงตรงจนน่ากลัว ถ้าเทียบกับบ้านเราเวลาบอกไม่ได้ แถมวิ่งอยู่ดี ๆ ก็จัดการจราจร ที่ฮาสุดคือไปโน่น 6
วันไม่เจอเสียรึดีเลย์แต่มือถือนี่ต่อโรมมิ่งมีแต่ข้อความเตือน BT* เสียเกือบทุกวัน


บินไปดูงานของบ้านเรา ร้อยละ 99 คือไปเที่ยว เอาเงินภาษีไปละเลงเล่นน่ะ

Tue 15 Jan 2019 : 9:30AM

Burm
member

Since 15/3/2006
(17205 post)
เทียบกับญี่ปุ่นนี่ต่างกันหลายสิบอย่างเลยครับ
1 ประตูทางเข้า ญี่ปุ่นจะเปิดตลอดเวลา จะเด้งเมื่อมีนคนพยายามเดินผ่านโดยไม่ติ๊ดตั๋วเท่านั้น
2. ญี่ปุ่นจะมีประตูเด้ง 2 ข้าง คือสุดทางแต่ละฝั่ง โอกาสที่จะโดนประตูดีดคือต้องวิ่งครับ
3. ที่แตะบัตร เสียบบัตร ทำงานเร็วมากแตะโดนปุ๊บติดเลย บ้านเราต้องแช่ประมาณ 2-3 วินาที ตอนที่คนเยอะหน่อยสัก 40-50 คนนี่วิกฤติมาก แต่ญี่ปุ่น บางสถานี ที่แตะบัตรต่อ 1 ทางออกน้อยมาก ยังชิลๆ เพราะคนแตะแล้วออกเลย
4. ป้ายบอกสถานีทุกที่ ทุกบริษัท จะบอกว่า สถานีถัดไป และก่อนหน้าคืออะไร และติดในจุดที่เห็นง่ายมากๆ
5. ป้ายบอกสายรถ จะบอกว่า สายถัดไปจะมากี่โมง และสายถัดจากนั้นด้วย บ้านเราจะขึ้นแค่ 5 นาทีก่อนมาถึง (MRT) กับบอกตอนจะมาถึง (BTS)
6. ป้ายไฟส่วนใหญ่เขาอุทิศให้การบอกข้อมูลรถไฟ บ้านเราเอามาโฆษณาล้วนๆ (น่าจะเป็นของ agency มาติดเอง นั่นคือ สถานีไม่มีป้ายห่านอะไรเลย)
7. เครื่องขายตั๋ว ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว เครื่องที่รับธนบัตร กับทอนตังค์ได้ มีอยู่ไม่กี่เครื่อง ญี่ปุ่นนี่เขาเป็นทุกเครื่อง (และเป็นมานานแล้วด้วย) เห็นว่ากำลังจะเปลี่ยนแต่ก็ประหลาดตรงที่เอามาลองบางเครื่อง แถมยังใช้กับบัตรเก่าได้บ้างไม่ได้บ้าง ต้องเอาคนมายืนตะโกนบอกว่า บัตรขาวเข้าทางนี้

พอแล้ว เดี๋ยวยาว
แต่เรื่องนิสัยคน ไม่ต่างกันมาก
คนขึ้นไปก็ยืน ขวางประตูเหมือนบ้านเราแหละ มีแค่ชั่วโมงเร่งด่วนที่จะมี จนท มาผลัก
แต่คนนี่เงียบจริง


Reply
Vote




3 online users
Logged In :