Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
This thread is locked
สนทนาประสาการเมือง ��าค VII

Reply
Vote
# Tue 19 Feb 2019 : 10:12AM

Kevin4real
member

Since 2018-12-10 14:34:55
(2725 post)
Pompoko wrote:


ส้มหวานรายวัน

ปล พึ่งรุ้เหมือนกันว่าไอคอนสยามออกค่าก่อสร้างเอง

กรุงเทพมหานครชี้แจง กรณีข้อโต้แย้งการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง

สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ขอเรียนข้อเท็จจริง ดังนี้

ในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครนั้น กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้บริหารจัดการทุกโครงการ รวมทั้งมีสิทธิในการจัดเก็บค่าโดยสาร การหารายได้เชิงพาณิชย์จากโครงการต่าง ๆ ของบริษัท และการหาแหล่งเงินทุนในการก่อสร้าง โดยกรุงเทพมหานครไม่ได้มีการสนับสนุนงบประมาณแก่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด แต่อย่างใด สำหรับโครงการรถฟ้าสายสีทองเป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เข้าบริหารจัดการและดำเนินการจัดหาแหล่งเงินทุนในการก่อสร้าง โดยไอคอนสยามได้ประสงค์ซื้อสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองล่วงหน้า 30 ปี มูลค่าของสัญญา 2,080 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่เคยมีการศึกษาความเหมาะสมของโครงการไว้ ประกอบด้วย โครงการจ้างที่ปรึกษาฯ โดยสำนักการจราจรและขนส่ง เมื่อปี พ.ศ.2559 ซึ่งคิดรายได้เชิงพาณิชย์ 1,110 ล้านบาท และที่ปรึกษาทบทวนผลการศึกษา จ้างโดยบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด คิดรายได้เชิงพาณิชย์ 723.9 ล้านบาท

ดังนั้น การที่กล่าวว่าไอคอนสยามออกเงินสร้างให้ แต่ กทม. ต้องผ่อนชำระคืน 20 ปี ในรูปของค่าเช่าพื้นที่โฆษณาจึงไม่ถูกต้องแต่อย่างใด รวมทั้งกรุงเทพมหานครไม่ต้องสนับสนุนงบประมาณใด ๆในการก่อสร้างโครงการ และเมื่อการดำเนินงานได้ผลกำไร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จะต้องจ่ายผลตอบแทนให้กับกรุงเทพมหานครในอัตราร้อยละ 50 ตามสัญญาระหว่างกรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัดด้วย

สำหรับการเดินทางระหว่างรถไฟฟ้าสายสีทองมีการเชื่อมต่อกับโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนหลักสายอื่น รายละเอียด ดังนี้
1.จุดเชื่อมต่อที่ 1 : รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS ส่วนต่อขยายสายสีลม) ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนถ่ายกับระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS ส่วนต่อขยายสายสีลม) สถานีกรุงธนบุรี (S7) ได้ที่สถานี G1 (สถานีกรุงธนบุรี) ของโครงการ โดยสามารถเดินผ่านทางเชื่อมระดับชั้นโดยสารระหว่างสถานีในระยะทางประมาณ 40 เมตร
2.จุดเชื่อมต่อที่ 2 : รถไฟฟ้าสายสีแดง ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงหัวลำโพง – บางบอน – มหาชัย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากการรวบรวมข้อมูลตามแผนแม่บทรถไฟฟ้าฯ พบว่าหากสถานีคลองสายของรถไฟฟ้าสายสีแดงจะอยู่บริเวณถนนลาดหญ้า ณ บริเวณด้านหลังของโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาจะสามารถเชื่อมต่อกับสถานี G3 (สถานีคลองสาน) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองได้โดยการเดินทางประมาณ 290 เมตร
3.จุดเชื่อมต่อที่ 3 : รถไฟฟ้าสายสีม่วง ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะที่สถานีสะพานพุทธ ซึ่งเป็นรูปแบบใต้ดิน ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนถ่ายได้ที่สถานี G4 (สถานีประชาธิปก) ของโครงการโดยการเดินเท้าระยะทางประมาณ 405 เมตร ไปตามแนวทางเท้าของถนนสมเด็จเจ้าพระยา

พร้อมกันนี้ สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ขอเรียนชี้แจงด้วยว่า กรุงเทพมหานคร ได้มีการศึกษาโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรองและได้นำเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองในการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 ซึ่งที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินโครงการและมอบสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาความเหมาะสมเพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลระยะที่ 2 ปัจจุบันอยู่ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณาดำเนินการ ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 และมีมติเห็นชอบให้ กรุงเทพมหานครเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง

เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีทองเป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดรองทำหน้าที่เป็นระบบเสมือน(Feeder System) ให้แก่ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนระบบหลัก ส่งเสริมการเข้าถึงและเป็นทางเลือกการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ ซึ่งจะมีปริมาณผู้โดยสารมีน้อยต่อเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนหลัก ดังนั้น เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรูปแบบการก่อสร้างแบบยกระดับกับแบบใต้ดินสามารถสรุปได้ว่า การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองเป็นรูปแบบยกระดับมีข้อดีกว่าการก่อสร้างเป็นรูปแบบใต้ดินหลายประการ ดังนี้

1. ก่อสร้างง่ายกว่า ไม่ซับซ้อน และใช้ระยะเวลาก่อสร้างที่น้อยกว่า

2. ค่าก่อสร้าง ค่าการดำเนินงาน และบำรุงรักษาระบบต่ำกว่า จึงมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและการเงินการลงทุนที่ดีกว่า

3. สามารถออกแบบเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน เนื่องจากมีระบบส่งน้ำหลักของการประปานครหลวงอยู่ใต้ถนนเจริญนคร

4. ผลกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า เนื่องจากปริมาณงานในการก่อสร้างแบบยกระดับน้อยกว่ารูปแบบใต้ดิน

5. ผลกระทบทางสังคมน้อยกว่า เปิดพื้นที่ก่อสร้างน้อยกว่าและไม่จำเป็นต้องเวนคืนที่ดิน

6. เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนหลักสายอื่น ๆ ได้สะดวกกว่า

โดยคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 และมีมติเห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2537 เรื่อง พื้นที่ที่ควรกำหนดให้ระบบขนสงมวลชน (รถไฟฟ้า) เป็นระบบใต้ดิน

http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/8747%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2?fbclid=IwAR1EcXDikV4co7Ihuz7cirD94WzEg_qu1SyIDO15NwStFplv_jEtq33PgCU
View all 5 comments >
Tue 19 Feb 2019 : 12:01PM

255BB
member

Since 19/4/2006
(3954 post)
เรื่องงบประมาณนี่ผมเคยโพสในหน้าก่อนๆ แล้ว ส่วนตัวอยากให้เพิ่ม VAT เป็น 8% นะ เพิ่ม VAT จะโดนคนทุกกลุ่ม ไม่เหมือนภาษีอื่นที่กระทบบางกลุ่ม แต่ภาษีที่ได้มาก็ต้องเอาไปใช้ให้ดี พวกการศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น
[Edited 1 times 255BB - Last Edit 2019-02-19 12:01:50]

Tue 19 Feb 2019 : 12:06PM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5803 post)
255BB wrote:
เรื่องงบประมาณนี่ผมเคยโพสในหน้าก่อนๆ แล้ว ส่วนตัวอยากให้เพิ่ม VAT เป็น 8% นะ เพิ่ม VAT จะโดนคนทุกกลุ่ม ไม่เหมือนภาษีอื่นที่กระทบบางกลุ่ม แต่ภาษีที่ได้มาก็ต้องเอาไปใช้ให้ดี พวกการศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น
ถ้าเก็บแวทไปเยอะแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์เก็บเพียงแค่ให้เยอะไว้ก่อน อันนี้ผมไม่เห็นด้วยแต่รู้ว่าจะขึ้นเป็น ๙%ตั้งนานแล้วแต่ราชกิจจาฯในหลวงออกมาระงับขึ้นไว้ก่อน ถ้าขึ้นก็พร้อมจ่ายครับแผนมาสองสามปีละในหลวงห้ามคำสั่งไว้ก่อน

Tue 19 Feb 2019 : 1:20PM

Bosjozuzy007
member

Since 2019-01-04 15:16:30
(2775 post)
"MnemoniC";2472853 wrote:
255BB wrote:
เรื่องงบประมาณนี่ผมเคยโพสในหน้าก่อนๆ แล้ว ส่วนตัวอยากให้เพิ่ม VAT เป็น 8% นะ เพิ่ม VAT จะโดนคนทุกกลุ่ม ไม่เหมือนภาษีอื่นที่กระทบบางกลุ่ม แต่ภาษีที่ได้มาก็ต้องเอาไปใช้ให้ดี พวกการศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น
ถ้าเก็บแวทไปเยอะแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์เก็บเพียงแค่ให้เยอะไว้ก่อน อันนี้ผมไม่เห็นด้วยแต่รู้ว่าจะขึ้นเป็น ๙%ตั้งนานแล้วแต่ราชกิจจาฯในหลวงออกมาระงับขึ้นไว้ก่อน ถ้าขึ้นก็พร้อมจ่ายครับแผนมาสองสามปีละในหลวงห้ามคำสั่งไว้ก่อน


ผมว่าต้องให้สัมพันกับรายได้​ ควบคู่กันไปดีสุด

Tue 19 Feb 2019 : 1:32PM

"MnemoniC"
member

Since 2015-12-08 01:43:55
(5803 post)
Bosjozuzy007 wrote:
"MnemoniC";2472853 wrote:
255BB wrote:
เรื่องงบประมาณนี่ผมเคยโพสในหน้าก่อนๆ แล้ว ส่วนตัวอยากให้เพิ่ม VAT เป็น 8% นะ เพิ่ม VAT จะโดนคนทุกกลุ่ม ไม่เหมือนภาษีอื่นที่กระทบบางกลุ่ม แต่ภาษีที่ได้มาก็ต้องเอาไปใช้ให้ดี พวกการศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น
ถ้าเก็บแวทไปเยอะแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์เก็บเพียงแค่ให้เยอะไว้ก่อน อันนี้ผมไม่เห็นด้วยแต่รู้ว่าจะขึ้นเป็น ๙%ตั้งนานแล้วแต่ราชกิจจาฯในหลวงออกมาระงับขึ้นไว้ก่อน ถ้าขึ้นก็พร้อมจ่ายครับแผนมาสองสามปีละในหลวงห้ามคำสั่งไว้ก่อน


ผมว่าต้องให้สัมพันกับรายได้​ ควบคู่กันไปดีสุด
อย่างที่คุณบอสโจซูซี่ว่าครับ

Tue 19 Feb 2019 : 1:44PM

Bosjozuzy007
member

Since 2019-01-04 15:16:30
(2775 post)
"MnemoniC";2472886 wrote:
Bosjozuzy007 wrote:
"MnemoniC";2472853 wrote:
255BB wrote:
เรื่องงบประมาณนี่ผมเคยโพสในหน้าก่อนๆ แล้ว ส่วนตัวอยากให้เพิ่ม VAT เป็น 8% นะ เพิ่ม VAT จะโดนคนทุกกลุ่ม ไม่เหมือนภาษีอื่นที่กระทบบางกลุ่ม แต่ภาษีที่ได้มาก็ต้องเอาไปใช้ให้ดี พวกการศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น
ถ้าเก็บแวทไปเยอะแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์เก็บเพียงแค่ให้เยอะไว้ก่อน อันนี้ผมไม่เห็นด้วยแต่รู้ว่าจะขึ้นเป็น ๙%ตั้งนานแล้วแต่ราชกิจจาฯในหลวงออกมาระงับขึ้นไว้ก่อน ถ้าขึ้นก็พร้อมจ่ายครับแผนมาสองสามปีละในหลวงห้ามคำสั่งไว้ก่อน


ผมว่าต้องให้สัมพันกับรายได้​ ควบคู่กันไปดีสุด
อย่างที่คุณบอสโจซูซี่ว่าครับ


แต่การจะเพิ่มรายได้ต่อหัวให้รวดเร็วไม่ง่ายเลยฮะ​ นอกจากใช้วิธีที่ออกแนวคล้ายประชานิยม​ คือจัดให้กองทุนสำหรับกู้ยืมแบบไม่โหด​ ส่วนวิธีแบบการพัฒนาจากภายใน​หรือให้ความรู้สร้างประชาชนให้มีความรู้ในการพึ่งตัวเองหรือการพัฒนามนุษย์ให้พึ่งตัวเองได้มันค่อนข้างต้องใช้เวลาในระยะยาว​ คงอีกนานจริงๆ


Reply
Vote




1 online users
Logged In :