ข่าวล่าสุด เปิดเผยฮิโอกิของตัวละครหลัก 4 คน และข้อมูลใหม่อื่น ๆ


อัลเฟน: ฮิเอนโชว ไค(緋炎衝・開)/ Scarlet Flame


ชิออน: Adre Beat Omnia


รินเวล: ชิรานางิ คามินาริ (白薙・神鳴)


โรว: จินไรโรวเอกาคุ(迅雷狼影脚)/ Thunder Wolf Shadow Kick


ระบบจัดท่าแบบใหม่ในภาคนี้


ในภาคนี้เราสามารถเซ็ตท่าโจมตีบนพื้นดิน กับท่าโจมตีกลางอากาศได้อย่างละ 3 ท่า นอกจากนี้หากกดปุ่มD-padไปด้วย ก็จะสามารถใช้ท่าได้อีกอย่างละ 3 ท่า รวมกันเป็น 12 ท่าที่สามารถเซ็ตได้
จะทำให้สามารถสร้างคอมโบผสานกันทั้งบนพื้นและกลางอากาศได้อย่างอิสระ



พระเอกภาคนี้กลับมาใช้มาชินเคนได้แล้วนะครับ หลังจากที่หายไปจากมือพระเอกนานถึง 2 ภาคทีเดียว 555555

ความในใจที่ถูกซ่อนไว้ของเหล่าตัวละครในปาร์ตี้
เหล่าตัวละครทั้ง 4 ที่เปิดเผยออกมาล่าสุด ได้เข้าต่อสู้โดยเก็บงำบางอย่างไว้ในใจ





อัลเฟน
ทาสชาวดาน่าผู้ชูดาบแห่งเปลวเพลิงมุ่งสู่การปฏิวัติ

ชายหนุ่มสวมหน้ากากปริศนาที่ตื่นขึ้นโดยสูญเสียความทรงจำทั้งหมด
วันคืนที่ต้องเห็นพวกพ้องชาวดาน่าทำงานหนักจนล้มลงไปทีละคน และชาวเรน่าที่ยิ้มเยาะกับสิ่งที่เกิดขึ้น อัลเฟนที่ไร้ความทรงจำได้ชิงชังต่อความอยุติธรรมที่เห็นกันจนชินตานั้นอย่างแรงกล้า
อัลเฟนที่ได้พบกับชิออนจนได้ดาบแห่งเปลวเพลิงมา ได้โค่นล้มเหล่าSurdoจากแต่ละดินแดน และทลายกำแพงที่แบ่งแยกดินแดนนั้นลง เพื่อเป็นช่วงชิงเอาอิสรภาพกลับคืนมา

ชิออน
นางเอกปริศนาผู้ถูกชาวเรน่าด้วยกันเองตามไล่ล่า

ชิออนได้พบกับอัลเฟนเข้าระหว่างที่กำลังโดนทหารชาวเรน่าตามล่าอยู่ ในการต่อสู้เธอได้ใช้ศาสตร์แห่งวิญญาณดาราในการรักษาเพื่อร่วมมือกับอัลเฟน เธอได้ถูก บิเอโซ่ Surdo จาก คาลาเกรียเรียกว่า “คนทรยศ”

สาเหตุที่เธอถูกทหารเรน่าตามล่าและเป้าหมายที่แท้จริงของเธอที่ถึงขนาดต้องใช้ประโยชน์จากชาวดาน่าบนดินแดนที่กระทั่งการที่ชาวเรน่ากับชาวดาน่าสนทนากันยังนับว่าแปลก นั้นคืออะไรกันแน่

รินเวล
ผู้ที่ถูกกดขี่ ลูกหลานของชาวเผ่าที่อยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ

เผ่าของรินเวลนั้นสามารถใช้ศาสตร์แห่งวิญญาณดาราได้ทั้งที่เป็นชาวดาน่า ในอดีตจึงถูกเรียกว่า “จอมเวท” ด้วยความพิเศษที่ว่านั้นทำให้พวกเขาต้องหลบซ่อนตัวจากทั้งชาวเรน่า และพวกพ้องอย่างชาวดาน่าด้วยเช่นกัน

รินเวลได้ยินข่าวลือของ “ดาบแห่งเปลวเพลิง”จากคาลาเกรีย จึงได้มาปรากฎตัวต่อหน้าอัลเฟนกับชิออนด้วยความหวังที่จะปลดปล่อยชิสโรเดีย

แต่ทว่าจากเหตุการณ์บางอย่าง รินเวลได้ถูกปองร้ายจากชาวเรน่ามากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว ทำให้การร่วมทางกับชิออนได้ก่อความกังวลในใจรินเวลขึ้นมา

โรว
เด็กหนุ่มผู้ทรยศพวกพ้อง กลายเป็นมือเท้าให้กับเรน่า

เด็กหนุ่มชาวดาน่าผู้สังกัด [นัยตาอสรพิษ] ตำรวจลับผู้รักษาความสงบให้แก่การปกครองของเรน่า
เขาได้ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าพวกอัลเฟนที่เดินทางมาถึงชิสโรเดีย เพื่อจับกุมตัวพวกเขาในฐานะ “ผู้ก่อความไม่สงบ”
เหตุใดเขาถึงทรยศชาวดาน่าด้วยกันเอง และจัมกุมพวกพ้องในฐานะคนในองค์กรของเรน่า สีหน้าทุกข์ใจที่เขาแสดงออกมาเป็นบางครั้ง เบื้องหลังอันดำมืดที่อยู่ภายใต้ใบหน้านั้นคืออะไรกันแน่

ดาวที่ถูกแบ่งแยก อนาคตและชีวิตของผู้คนที่ถูกช่วงชิงไป ดาน่า
ในอดีต ดาน่าเคยเป็นดาวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี แต่ด้วยการเข้ารุกรานของเรน่าเมื่อ 300 ปีก่อน ความสงบสุขก็ได้จบลง


เมื่อถูกเรน่าเข้ายึดครอง ทั้งชีวิตประจำวันและวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาก็ถูกทำลายลงทั้งหมด
และ จากการที่ชาวเรน่าได้ช่วงชิงพลังที่สถิตอยู่ในทุกสรรพสิ่ง “พลังวิญญาณดารา” ไป ก็ได้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติและสภาพอากาศอย่างใหญ่หลวง

เรน่า ในอดีตเคยถูกยกย่องว่าเป็น “ที่พำนักแห่งทวยเทพ” ดาวของผู้ปกครอง

ในอดีตเคยเป็นดาวที่ถูกเรียกว่า ที่พำนักแห่งทวยเทพ สวนพักผ่อนของผู้วายชน

ด้วยวิทยาการที่เกินความเข้าใจของชาวดาน่า และเมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ปีศาจ "Zoogle" ที่ทหารเรน่าควบคุมอยู่นั้น ชาวดาน่าก็ถูกบีบบังคับให้ต้องยอมศิโรราบอย่างเลี่ยงไม่ได้
ดินแดนในดาน่านั้นได้ถูกแบ่งแยกโดยกำแพงที่ชาวเรน่าเป็นผู้สร้างขึ้น ในแต่ละดินแดนนั้นจะมีตัวแทนขาวเรน่า ระดับขุนผล(Surdo) คอยปกครอง
พวกอัลเฟนได้ออกเดินทางไปทั่วดินแดนเพื่อโค่นล้ม Surdo และทำลายกำแพงที่แบ่งเขตแดนเพื่อทวงคืนอิสรภาพให้แก่ชาวดาน่า

ชิสโรเดีย ดินแดนที่ถูกช่วงชิงแสงสว่าง จนกลายเป็นแผ่นดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ




จากการสอบปากคำ และจับกุมกลุ่มกบฎของตำรวจลับที่เรียกว่า “นัยน์ตาอสรพิษ” ทำให้การปกครองของเรน่าในดินแดนที่ถูกช่วงชิงแสงสว่างแห่งนี้เข้มแข็งเป็นอย่างมาก ผู้คนต่างหวาดกลัวการถูกสอบปากคำมาก ถึงให้เป็นกับชาวดาน่าด้วยกันเอง การพูดจาไม่เห็นด้วยกับการปกครองของเรน่าก็ยังเป็นสิ่งต้องห้าม
ในที่แห่งนี้ พวกอัลเฟนได้พบกับโรว ที่มาปรากฎตัวต่อหน้าเขาในฐานะคนของนัยน์ตาอสรพิษ

การต่อต้านการกดขี่จากชาวเรน่า กลุ่มต่อต้านของดาน่า

ในแต่ละพื้นที่ ชาวดาน่าได้สร้างกลุ่มต่อต้านเรน่าขึ้นมา

พวกเขาได้ให้ความร่วมมือกับพวกอัลเฟนที่ถือครองดาบแห่งเปลวเพลิง โดยหมายจะโค่นล้ม Surdo เพื่อปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระ

แต่ทว่าการต่อต้านและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้การกดขี่ของเรน่ายกระดับขึ้นไปอีก จึงใช่ว่าพวกเขาจะได้รับนับถือเยี่ยงวีรบุรุษเสมอไป



จิลฟา

ผู้รับผิดชอบกลุ่มต่อต้านของคาลาเกรีย (อีกาสีชาด)

คอยชี้นำเหล่าสมาชิกด้วยการอ่านสถานการณ์อย่างเยือกเย็น พร้อมทั้งมีมันสมองและทักษะการต่อสู้อันโดดเด่น ทำให้ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากลูกน้องเป็นอย่างมาก

เขาได้ร่วมมือกับอัลเฟนและชิออนในการจัดการกับ Surdo “บิเอโซ่”

เขาร่วมการต่อสู้ในฐานะSupport Member เขามีร่างกายที่แข็งแกร่งถึงขนาดจัดการกับทหารเรน่าหรือ Zoogle ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว






credit : [Link]