ถ้ามองแค่ทฤษฎีผมว่าน่าสนใจอยู่นะ
ผู้เล่นก็สามารถเล่นมาราธอนอยู่บ้านโดยไม่ต้องไปต่อแถวยาวๆแล้วผลัดคิวตอนเล่นแพ้อีกแล้ว (จากใจคนเล่นกันดั้ม vs 2 เลยเนี่ยมาเห็นแถวคนต่อคิวตอนช่วงไพร์มไทม์นี่โคตรสิ้นหวัง)
ส่วนทางร้านก็ไม่จำเป็นต้องสั่งซื้อตัวตู้เกมมาเยอะๆ เพียงแค่สั่งมาบางส่วน + เครื่องเซิฟเวอร์คลาวด์ ก็ช่วยลดภาระค่าซื้อเครื่องและค่าไฟไปได้ แถมมีคนเล่นมาราธอนอยู่บ้านอีกก็อาจทำรายได้ได้มากขึ้น

ปัญหามันอยู่ที่ตอนปฎิบัติจริงนี่แหละ เพราะเสน่ห์ของอาร์เคตคือประสบการณ์การได้สัมผัสตัวเกมจากตัวเครื่องมันจริงๆ
ถ้าเล่นจากที่บ้านก็สูญเสียอรรถรสการคอนโทรลแบบนั้นไปซึ่งก็ไม่รู้ว่าผู้เล่นจะรับกันได้ไหม
และยังมีเกมที่มีการคอนโทรลที่ไม่สามารถจับการควบคุมได้ด้วยคอนโทรลเลอร์ปุ่มกดทั่วไปอีก (เช่น Chunithm ที่มีการจับโมชั่นยกมือยกแขน)
ต่อมาก็มีเรื่องที่ว่าจะมีบริษัทอื่นมาทำตามด้วยหรือเปล่า ถ้าได้บริษัทอื่นมาทำตามร่วมด้วยก็ช่วยดึงดูดให้คนมาใช้ระบบนี้กันมากขึ้น ถ้ามีแต่เกมของเซก้าก็จะมีแค่คนใช้แค่กลุ่มๆเดียวอาจทำให้ Demand ความต้องการใช้ระบบนี้น้อยลง (เกมอาร์เคดของเซก้าที่ดังๆคนเล่นเยอะที่ผมนึกออกก็มี MaiMai, Chunithm และก็คันโคเระอาร์เคดนี่แหละ)
พอพูดถึงคันโคเระอาร์เคดแล้วก็นึกได้ว่ามันก็จะมีเกมบางเกมที่มีระบบ Trading card สั่งพิมพ์การ์ดจากตัวเกมแล้วนำการ์ดมาใช้ในเกมได้อีกนี่ซิ ก็คงได้แต่รอดูว่าเซก้าจะตีโจทย์นี้ยังไง