สมันเรียนมหาลัย ผมไม่สนใจการเมืองเลยครับ

พยายามไม่ให้ถูกรีไทร์ ตอนปี 1

พอปี 2 ก็ทำเกรดให้ได้สัก 2.75-3.0 ยังยาก สงสัยตัวเองหัวไม่ดี

เวลาว่างก็เอาไปเล่นบอลเล่นบาส ออกกำลังกาย

วัยรุ่นผมก็ไม่สนใจเรื่องการเมืองเหมือนกัน เพียงแต่เห็นจากการชุมนุมครั้งนี้มีแต่ นศ เป็นส่วนใหญ่
ก็เลยนึกย้อนว่ามันน่าเป็นช่วงที่สุดๆแล้วหละ 555 ขึ้นเลข 3 แล้วก็มีแต่ความคิดว่าอะไรก็ได้ ที่ทำให้ชีวิตโอเค และคนรอบข้างเดือดร้อนน้อยที่สุด

ตอนวัยรุ่นผมยังเป็นไอ้โง่ที่เอาแต่นับถือเจ้า อินๆกับพิธีเขาอยู่เลยคับ 55555

555 ตอนเด็กๆผมก็รู้สึกเสื่อมใสกับศาสนา แต่โตมา พอได้เข้าไปบวช ออกมาอีกทีความคิดเปลี่ยนเลยครับ
แต่ส่วนเรื่องเจ้า เราก็เฉยๆมาแต่ไหนแต่ไร รู้แต่ว่าชอบปิดถนนเวลารีบๆจังเลยฟะ 555

มต้น มปลาย นอกจากข่าวกีฬา อย่างอื่นไม่สน

พอมหาลัย กดแต่winning

จะมาอินการเมืองก็ตอน เมืองไทยรายสัปดาห์ ที่ออกช่อง9
ส่วนตัวเป็นคนชอบประวัติศาสตร์ ลุงลิ้มพูดแล้วเพลิน
จนแกออกมาลุยกับทักกี้ ก็ตามๆไป แต่ที่ตามเพราะไม่เอาคอรัปชั่น

แต่พอเวลาผ่านไป ก็ทำให้รู้ว่า
ตัวเล็กอย่างเรา สุดท้ายก็เป็นได้เบี้ยที่เขาใช้แล้วทิ้ง

เขียนถึงทักกี้ เดี๋ยวคุณsuก็ตามมาอีก

ความเห็นผมต่อทักกี้ น่าจะเขียนไว้นานแล้ว
ลงอีกรอบแล้วกัน เอาเป็นว่า ผมเสียดายคนแบบทักกี้ครับ
ถ้าแกรู้จักคําว่ารอ แล้วบริหารบ้านเมืองไปตามปกติ ไม่มีคอรัปชั่น

ดูมูลค่า ais ตอนนี้ซิ แค่กําไรก็ปีละเท่าไหร่
ถ้าลุงแกยอมรอป่านนี้ เงิน บารมี อำนาจ
แถมเผลอๆอาจได้ยกขึ้นระดับ1ในรัฐบุรุษ ก็เป็นไปได้

ลองนึกภาพ การเมืองในยุคแรกที่แกเช้ามา ก็ร่วมๆจะ20ปีมั้ง
ยุคใกล้ๆกับเกาหลีใต้นับ1
ถ้าไม่มีคอรัป บริหารไปตามรัดมานูน40ที่วางไว้

คิดว่าจบ ปตรี ยุคนี้เงินเดือนจะเท่าไหร่กันแล้ว

พูดถึงทักกี้ ผมได้รับอิทธิพลไม่ชอบทักกี้มาจาก วงดนตรีอยู่วงนึง ที่แอบแทรกเนื้อเพลงความไม่ชอบทักกี้อยู่ในเพลงของพี่ๆเขา
แต่ผมก็ไม่ได้อินกับการเมืองอยู่ดี ส่วนนึงคงมาจากพ่อแม่ที่บ้านไม่ได้คุยกันเรื่องการเมืองเท่าไหร่ด้วยมั้ง อีกทั้งเรียน ม เอกชน ที่ไม่ได้มีเรื่องการเมืองรุนแรงเท่ากับ ม รัฐ (ในความคิดของผมนะ) topic เรื่องการเมืองเลยไม่ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตเท่าไหร่ครับ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พ่อผมก็ยังมีพูดอยู่เรื่อยๆว่า สมัยทักกี้เศรษฐกิจมันดีกว่านี้จริงๆ

ถ้าพูดถึงเศรษฐกิจในยุคทักกี้ มันดีมากเลยครับ

เพราะมันเกิดหลังจากยุคต้มยำกุ้ง ที่เศรษฐกิจอยู่ในขาขึ้นพอดี

ประจวบกับที่แกเป็นนักธุรกิจที่เก่ง แถมมือขวาอย่างลุงสมคิดก็เก่ง

เลยดึงเงินจากต่างชาติมาพอควร

ต้องถือว่าแกโชคดีด้วยที่อยู่ในช่วง เศรษฐกิจขาขึ้นพอดี


แต่พอไปฟังอีกมุม ต้มยำกุ้ง อาจไม่เจ็บเท่านี้ ถ้า......
ไม่เล่าต่อแล้วกัน
แต่น่าจะประมาณมาณมีบางคนไปบอก big j นายกช่วงนั้นว่าไม่ต้อง อะไรซักอย่างจากจีน
ข้อมูลเลือนๆไม่ชัดเอาเป็นว่า จําได้ประมาณนี้แล้วกันครับ

จริงๆมันอยู่ที่มหาลัยด้วยส่วนนึง สมัยผมเรียนพระจอมฯ ลาดกระบัง ไม่เคยมีใครคุยการเมืองกันเลย แต่สมัยนี้คงมีแล้วมั้ง

ลูกพี่ลูกน้องเรียน ธรรมศาสตร์ จุฬา ก็เป็นกลุ่มไม่เอาเจ้า

เมื่อก่อนตอนวัยรุ่นนี่ผมเนี่ยสลิ่มฮาร์ท​คอเลยด่าแต่ทักกิ้อย่างเดียววาทะกรรมมายด์​เซ็ตโกงกินฆ่าปชช(ฆ่าตัดตอน)​ล้มสถาบัน.. วนในหัวผมเลยเกี่ยวกับทักกี้​ ตอนนี้ผมเฉยๆดีก็ชมแย่ก็ด่าแต่ำม่อินไม่คลั่งอะไร

ตอนนี้ล่ะ

ตาสว่างแล้วไง ไม่ได้โง่ดักดานนับถือพวกนั้นแบบตอนวัยรุ่นแล้ว

มันก็จริงที่โตมาแล้วความคิดเปลี่ยน เพราะเรารู้เห็นมากขึ้น ก็มีทั้งแง่มุมที่ชอบ ไม่ชอบ
แต่ก็เอาแค่พูดกันเงียบๆ ก็พอ ไม่ได้อยากจะต้องออกมาตะโกนในที่สาธารณะอ่ะนะครับ
เอาจริงๆที่คนทั่วๆพูดๆกันว่า วิจารณ์ติชมได้เลย แต่พอเจอเข้าจริงๆมันก็หน้าชาได้เหมือนกันนะ
มันต้องรู้สึกมั่งแหระ ไม่มีใครอยากมาเป็นเป้าให้ถูกคนด่าฟรีๆ หรอก

ตาสว่างว่าอะไร​ เจ้าคือนี่คือเจ้าในศาลเจ้า​ใช่มั้ย5555

สถาบัณไง ต้องแปลอะไรอีกไหม?

แปลอีกว่าตาสถาบัน​ว่าอะไรตาสว่างเรื่องอะไรยังไง​ ตาสว่างกับใครบ้าง

ทั้งสถาบัณเลยไง แต่อย่างว่า พูดไม่ได้เดี๋ยวมู้ปลิว

ทั้งสถาบันเนึ่ยมั่นใจข้อมูลแค่ไหนมีอ้างอิงมั้ยข้อมูลแน่นขนาดไหน​ ไมรใช่ไปเชื่อข้อมูลทีโดนตีตกเด้ออ​ เอาข้อมูลเชิงประจักษ์​ เอาแค่คนเลวทั้งตระกูลก็ไม่เม็คเซนต์​เท่าดีทั้งตระกูล​แล้วแหละมั้ง

ไม่มีใคร ดี 100 ไม่ดี 100
ในตระกูลก็คงไม่มี ขาวทั้งหมด หรือดำทั้งหมดหรอก

นั่นแหละผมก็ว่าอยู่บอกตัวเองตาว่างเหมือนฉลาดแต่จริงๆก็โดนล้างสมองด้วยข้อมูลตั้งข่าวของฝั่งตรงข้ามอีกทอดนึง​ ออกจากกะลาไปอยู่อีกกะลานึงที่ขนาดเท่ากันหลงดีใจคิดว่าตัวเองฉลาดหลุดพ้นจากการโดนหลอกโดนมอมเมาสุดท้าย​หารู้ไม่ว่ากลับไปโดนฝั่งตรงข้ามหลอกอีกทีนึงโดนฝั่งขี้อิจฉา​หลอกมา

ก็สมัยตอนนั้นโง่อะนะ ถึงได้ไปเคารพสิ่งที่ไม่สมควรมาตลอด แต่อย่างว่าแหละ โดนล้างสมองกันตั้งแต่เด็กจนโตกันทั้งประเทศ จนหลายๆคนมันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโดนล้างสมองกันมา แต่เด็กยุคนี้ดีหน่อย สื่อมันเข้าถึงง่าย หาข้อมูลเองได้ไม่ต้องไปนั่งโดนกรอกหูอยู่ฝ่ายเดียว นึกๆไปก็น่าอิจฉาหน่อยๆแฮะ ไม่ต้องโง่ดักดานนานๆแบบรุ่นผม 5555

ผมถามโมสาร์ทว่าตัวโมสาดเองมั่นใจข้อมูลที่ตัวเองรับมาตอนนี้แค่ไหนมีต้นแหล่งอ้างอิงแบบหลักฐานชั้นต้นที่ไม่มีทางหลุดมั้ย​ โมสาดมั่นใจได้ไงว่าโมสาดก็ไม่ได้โดนล้างสมองโดยอีกฝั่งเหมือนกัน

มันต้องค่อยๆหาข้อมูลเองอ่ะไอ้เราจะเผยแพร่ก็มันก็เสี่ยงอันตราย ถึงแม้จะอยากให้มีคนตาสว่างเพิ่มขึ้นก็ตาม

ยังไงไม่ว่าจะเชื่อข้อมูลฝั่งไหนก็ตาม ก็อยากให้อ่านจากแหล่งข่าวที่น่าเขื่อถือแหระนะ แหล่งข่าวออนไลน์เดี๋ยวนี้ก็มีทั้ง bias / exho chamber / miscommunication เยอะแยะไปหมด