ตอนนี้มีโครงการจะหาซื้อมาไว้สำหรับลงเกมโดยเฉพาะ

ตอนแรกอยากได้ประมาณ 500 gb แต่เกมสมัยนี้ 500 gb น่าจะลงได้แค่ไม่กี่เกม

เลยจะกัดฟันอีกนิดไปที่ 1 tb เลย

ขอสอบถามหน่อยครับ


สำหรับการเล่นเกมจำเป็นหรือเปล่าครับที่ต้องใช้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูง ๆ

เคยลองดูรีวิวทดสอบใน youtube หลายช่อง SSD กับ M.2 เหมือนจะไม่ค่อยต่างกันมากเท่าไร แต่ถ้าเทียบกับ HDD แบบเดิมจะเห็นผลได้ชัดกว่า

แล้วถ้าจะซื้อแนะนำของแบรนด์ไหนดีครับ

สำหรับผมใช้ m.2 รันวินโดว์ครับ เปิดเร็วอัพเดทเร็ว ไม่ต้องที่เยอะก็ได้ เอาเกมที่เล่นบ่อยๆใสใน m.2
ส่วนเกมอื่นๆยัดลง ssd เอาครับ ssd มันก็ไม่ได้ช้ามากขนาดนั้น แต่แนะนำให้ใช้ m.2 เป็นตัวบูสวินโดว์ครับ

M2 กับ Sata SSD โหลดเกมแทบไม่ต่างกันเลยคับ ตามคลิปนี้เลย

ถ้ามีโครงการจะอัพเกรด pc ใหม่ยกชุดภายหลัง ก็ซื้อพวก ssd ที่เป็นแบบตลับ sata ไปใช้ก่อนก็ได้ครับ ราคา 2xxx(500g) 4-3xxx(1tb) เพียงพอแล้วครับ

แต่ถ้าจะใช้ยาวๆกะของที่มีอยู่ ก็ดูพวก m.2 ไปเลยครับ ถ้าใช้บอร์ดรุ่นใหม่ๆของ amd ก็หาดูพวก m.2 pcie gen 4 ไปเลย ของ seagate 500g น่าจะราคาและประสิทธิภาพดีที่สุด(ราวๆ 4-5xxx)
แต่ถ้าไม่ได้ใช้บอร์ดที่ใหม่มากขนาดนั้น ก็หาดูพวก m.2 pcie gen 3 เอา ราคาก็จะถูกกว่าถึงครึ่งนึ่ง ดูพวก 1 tb ไปเลย ราคามันประมาณ 4-5xxx ถ้าเกินกว่านี้ถือว่าไม่คุ้มละ

แบรนด์ก็เลือกเอาที่คุ้นเคยได้เลยครับ

คือมันดีกว่าแน่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีนักพัฒนาเกมจ้าวไหนเค้าซัพพอร์ทเฉพาะเจาะจงความเร็วให้ขนาดนั้นครับ เรื่องนี้เลยต้องรออีกยาว

m.2 ยุคนี้มาแรงกว่า บอร์ดรองรับกันเยอะขึ้น ความเร็วก็เหนือชั้นกว่า sata แม้ว่าจะไม่ค่อยเห็นผลในเกม แต่ราคาถูกลงพรวดๆ แบบนี้ยิ่งทำให้น่าใช้กว่า ดูหน้าตามันก็น่าจะเข้าใจ คือมี pcb แผงเดียวก็ขายได้ ผิดกับ sata ต้องมีกรอบครอบ ไม่งั้นดูน่าเกลียด

ถ้าจะประกอบคอมใหม่เลยผมแนะนำใส่ m.2 ยืนพื้นไว้ก่อนสักตัวเป็นตัวหลัก เพราะใช้ลง windows/program มันแรงดีจริง แล้วถ้ามีงบค่อยเพิ่มแบบ sata เอาเพราะเพิ่มง่ายกว่า ถอดใส่ง่าย ไม่ต้องแกะการ์ดจอ จากนั้นเวลาลงเกมก็พิจารณาเอาว่าจะลงตัวไหนดี เกมไหนโหลดไม่เยอะ พื้นที่ใหญ่ๆ ก็ควรย้ายไปลง sata

ถ้าเป็น gen 4 ที่ Read/Write โหดๆ ในอนาคตจะเห็นผลแน่นอนครับ ตอนนี้ Cyberpunk ก็แนะนำให้ใช้ SSD แล้ว

สรุปสั้นๆ : มีงบ MB มี slot รองรับ ไป M.2 - งบน้อย ใช้ 250gb แค่ลง Win พอ ส่วนเกมใช้ SSD SATA ไปก่อนได้

เทียบผิดนิดหน่อยนะครับ ปรับความเข้าใจกันก่อน
เวลาพูดถึง M.2 จะหมายถึงรูปร่างของ SSD ที่เป็นแผ่นเล็กๆ คล้ายๆ Ram ซึ่งมันสามารถต่อกับ Slot พิเศษของมัน
ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูลตาม Protocol PCI-express 3.0, SATA 3.0 และ USB 3.0 bus ได้

หมายความว่ามันมี M.2 ตัวที่ส่งข้อมูลเร็วแค่ระดับ SATA เหมือนกัน
(มองอีกมุมคือ SATA SSD มีทั้งแบบเป็นแผ่น M.2 และแบบเป็นตลับเสียบสาย SATA ทั่วๆไป)

ส่วน SSD ที่ส่งข้อมูลเร็วว่า SATA เราจะเรียกว่า NVme (ใช้ Protocol PCI-express ในการส่งข้อมูล) ซึ่งมันจะมีหน้าตาแบบ M.2 (มองอีกมุมคือ SSD ที่หน้าตาเป็น M.2 จะมีทั้งแบบความเร็วระดับ SATA และ NVme)

ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจให้ดีว่าจะพูดถึงอะไร ถ้าถามว่า SSD กับ M.2 จะเอาอะไรดี หมายความว่าเรากำลังพูดถึงหน้าตาของ SSD อยากได้แบบตลับ หรือแบบแผ่นใส่ M.2 socket ซึ่งสองแบบอาจจะมีความเร็วเท่ากันก็ได้ ถ้าเลือกแบบ SATA มา


ถ้าพูดถึงเรื่องความเร็วต้องเทียบ SATA vs NVme ซึ่งความเร็วต่างกันเยอะมาก
SATA 3 ความเร็วในการอ่าน 600 MB/s
NVme ความเร็วในการอ่าน 2,000 MB/s
แต่ในการเล่นเกม เราไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพมันจนถึงจุดนั้น ยังไม่มีเกมไหนเรียกใช้ข้อมูล 1 ก้อนที่ขนาดมากกว่า 600 MB ในครั้งเดียว เลยดูไม่แตกต่าง (แต่ในอนาคตก็ไม่แน่)

ลองเลือกดูใหม่นะครับว่าอยาได้แบบไหนแน่

ส่วนเรื่องขนาด ผมว่า 1 TB ไม่พอใช้ เกมสมัยนี้ ราวๆ 80-90 GB แล้ว หรือโหดๆ อย่าง CoD WarZone ก็ซัดไป 200 GB
ถ้าใช้ 1 TB จะเก็บได้อย่างมากก็ 7-8 เกม รวมหักพื้นที่สำหรับ OS และ Software อื่นๆ ไฟล์งาน และโฟล์เดอร์การบ้านลับ
ถึงจะเล่นทีละเกม แต่ผมว่าเรามีหลายๆ เกมที่ไม่ใช่เกมประเภทเสพเนื้อเรื่องที่เล่นจบแล้วจบกัน แต่เป็นเกมต้องเก็บไว้ในเครื่องเผื่อเปิดมาเล่นเมื่อมีโอกาส อย่างพวกเกมกีฬา เกมดนตรี เกม FPS multiplayer หรืออื่นๆ

ดังนั้นลองดูนิสัยการเล่นการเก็บเกมของเราด้วยนะครับ

ตอนนี้ NVME แรงสุดที่เห็นในตลาด ก็ WD black SN850
อ่าน 7000 เขียน 4100 โคตรโหด
แต่มันไปคอขวดที่ CPU อยู่ดีครับ
cpu พาข้อมูลไปไม่ทัน

ตัว SAM มันช่วยตรงนี้ ซึ่งในอนาคตอันใกล้น่าจะใช้ได้กับทุกเจ้า
ได้แค่ AMD+AMD ณ ปัจจุบัน
และก็ยังมี RTX I/O ของ Nvidia ที่ใช้คล้ายๆกันด้วยครับ

ตรงนี้จะมาช่วยทำให้ความเร็ว SSD มีผลต่อการเล่นเกมอย่างแรง

ส่วนผมใช้

Silicon Power 1TB 5000/4400 Gen4
กับ
TRANSCEND 1TB 3300/2800 Gen3

เล่นเกมยังไม่เห็นความต่างแบบรู้สึกได้ครับ ณ ปัจจุบัน (ผมใช้ AMD+ Nvidia ยังไม่มี SAM)

ราคาไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่แล้วหนิ ถ้าราคาห่างกันไม่มากหยิบ nvme ไปเลย อย่าลืมดู mainboard ด้วย มันมีให้เสียบ m2 กี่ช่อง แล้วมันไปแย่ง bandwidth กับอะไรด้วยรึเปล่า

ตอนนี้ผมใช้ m/b ASUS ROG STRIX Z390-F + i5-9400F

ตัวที่ลง windows เป็น CORSAIR MP510 PCIe/NVMe M.2 240gb ครับ

NVMe PCIe 4.0 ยังแพงไป แถมพีซีปัจจุบันยังมีคอขวดอยู่ ซื้อ M.2 NVMe PCIe 3.0 น่าจะคุ้มที่สุด ราคาลงมาใกล้ๆ กับ SATA3 2.5" แล้ว 4000 กว่าบาทก็ได้รุ่น 1TB เชียว

ผมใช้ samsung 970 evo, 850 evo, crucial mx500, WD black SN730 ดีทั้งสามยี่ห้อ ถ้าให้เลือกตัวเดียว ผมชอบซัมซุง

ผมใช้ตัว SSD 250GB WD BLACK SN750 NVMe M.2 2280 กับ Notebook

ตามสเปกคือ

Read (Up To) 3100 MB/s
Write (Up To) 1600 MB/s

เล่น Far Cry 5 โหลดแปปเดียวเสร็จ แทบไม่มีฉากกระตุก โหลดอะไรเลย สบายใจ

แต่อย่างว่า ซื้อมารันวินโดว์ + ลงโปรแกรม + ลงเกม

พื้นที่จะเหลือราว ๆ 100 GB+ อันนี้คือลง Abode CC ไปหลายตัวแล้วนะ ก็พอกับเกมยุคปัจจุบัน

แต่ไม่พอกับเกมยุคอนาคตที่กินเยอะกว่านี้ ถามว่ากัดฟันไหม 1 TB ผมว่าเทคโนตัวนี้มันไปเร็วมาเร็วนะ

แต่ก่อนตัวนี้ราคาเหยียบ 3000+ ตอนนี้เหลือ 1500 ล่ะ ถ้าคิดว่ากัดฟันแล้วดีกว่า ก็ทำ

แต่ถ้าคิดจะเปลี่ยนนั้นนี่อีก ก็ซื้อตัวถูก ๆ ก่อนก็ได้ เล่นแล้วลบ เล่นแล้วลบไป เกิดวันข้างหน้าเราเปลี่ยนเครื่องพวกนี้มันก็ราคาลงมาหรือมีเทคอะไรใหม่ ๆ ให้เราใช้ดีกว่างี้

คอมใหม่ผมใช้แต่ SSD เลยนะ ไม่ใส่ HDD

- GALAX GAMER V SSD SATA 120 GB
- Samsung Portable SSD T5 1TB
- WD BLUE SN550 SSD NVMe M.2 1TB

เล่นแต่เกม ยังไม่เอาไป Run โปรแกรมหนักๆอะไร
เลยไม่เห็นความแตกต่างตรงไหน